นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอพเพิล เวลธ์ เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ย.60 มีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกในประเทศเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ หลังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ปรับคาดการณ์การเติบโตปีนี้สู่ระดับ 3.5-4.0% จากแรงหนุนของการบริโภคเอกชนที่คาดจะขยายตัวที่ 3.2% และการลงทุนภาคเอกชนที่คาดขยายตัว 2.2% รวมถึงภาคการส่งออกคาดที่คาดว่าจะเติบโต 5.7%
นอกจากนี้ ปัจจัยเกี่ยวกับการเมืองยังดำเนินไปตามโรดแมพเลือกตั้งในช่วงปลายปี 61 และการลงทุนในประเทศนั้น พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดจะผ่านพิจาณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในช่วงเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการลงทุนเอกชนเริ่มฟื้นตัวชัดเจนในปีหน้า
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินจากปัจจัยบวกดังกล่าวจะส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศกลับมาเพิ่ม Risk Premium ต่อตลาดหุ้นไทย หลังจากเม็ดเงินต่างชาติไหลออกราว 3 กว่าแสนล้านบาทในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และการเมือง ปี 56-58 และเริ่มเห็นสัญญาณซื้อสะสมหุ้นไทยช่วงปีที่ผ่านมาราว 7.7 หมื่นล้านบาท
"ประเมินดัชนีฯ เดือน ก.ย.มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,650 จุด คิดเป็น Forward P/E 16.4 เท่า ซึ่งยังต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอินโดฯ ที่ 16.9 เท่า และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ 19.2 เท่า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ อย่างใกล้ชิด ซึ่งแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้มีน้อยมาก แต่คงต้องติดตามเฟดจะแถลงเริ่มมาตรการปรับลดงบดุลจำนวน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือไม่"
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยซื้อสะสม หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ BBL, KBANK, SCB, KTB คาดสินเชื่อฟื้นตัวในครึ่งปีหลังกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ITD, CK, STEC, UNIQ รับงานประมูลรถไฟทางคู่ 10 สัญญาที่จะดำเนินการใน ก.ย. นี้ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม AMATA, WHA, TFD รับปัจจัยบวกการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC และ กลุ่มท่องเที่ยวและโรงพยาบาล ERW, AAV, BDMS, BH รับปัจจัยบวกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวและธุรกิจ Medical Wellness Center