รศ.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น (WORLD) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค.60 มีมติให้ขายธุรกิจการศึกษาและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกไปให้กับกลุ่ม “จิยะจันทน์" ในรูปแบบโอนกิจการทั้งหมด เพื่อให้แยกชัดเจนระหว่างธุรกิจการศึกษา กับธุรกิจของ WORLD ในอนาคต ซึ่งพร้อมเดินหน้าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นแกนหลักอย่างเต็มตัว ซึ่งสอดคล้องกันกับคำแนะนำของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ก่อนกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯตามแผนงานที่วางเอาไว้
“ธุรกิจอสังหาฯไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ WORLD เพราะเราได้มีการทำธุรกิจนี้คู่ขนานกับธุรกิจการศึกษา ผ่านบริษัท เวิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมมูลค่า 750 ล้านบาท ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีรายได้เข้ามาตลอด และในช่วงต้นปี 60 ก็ได้เข้าไปลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียม IB Grand Hatyai จำนวน 3 โครงการ มูลค่า 933 ล้านบาท ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายรายได้ในปี 61"
นอกจากนี้ WORLD ยังได้เข้าลงทุนในบริษัท ไทย บอนเนต เทรดดิ้ง โซน จำกัด ซึ่งผู้ถือใบอนุญาตนิคมอุตสาหกรรมบางปูเหนือ ในจังหวัดสมุทรปราการ มูลค่าโครงการ 3,300 ล้านบาท และเข้าไปถือหุ้น บริษัท เวิลด์ อินดัสเตรียล เอสเตท (ลำพูน) จำกัด ผู้ถือใบอนุญาตนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ (ลำพูน2) มูลค่าโครงการประมาณ 2,500 ล้านบาท
รศ.จิรศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทมีเงินสดที่ได้จากการขายธุรกิจการศึกษากว่า 1,730 ล้านบาท เพื่อเตรียมไว้ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพดีในอนาคต โดยปัจจุบันมี Backlog มูลค่ารวมกันกว่า 6,500 ล้านบาท ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปถึงปี 63 และในช่วงปลายปี 60 บริษัทยังเตรียมเปิดตัวโครงการทาว์นโฮม สุดหรูย่านสาธรมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีความสนใจที่จะลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือแห่งใหม่อีกหนึ่งโครงการ ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาและการจัดหาพื้นที่
ส่วนผลดำเนินงานประจำปี 60 (สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค.60) บริษัทมีกำไรสุทธิ 369.69 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.053 บาท มีรายได้รวม 1,145.18 ล้านบาท
ขณะที่ บริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (Independent financial advisor : IFA) ได้เปิดเผยรายงานความเห็นเกี่ยวกับรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์และรายการที่เกี่ยวโยงกัน ของ WORLD โดย IFA ได้ชี้ให้เห็นถึง 4 ข้อดี ในการขายธุรกิจการศึกษาและธุรกิจที่เกี่ยวของทั้งหมดออกไป ซึ่งประกอบด้วย 1) บริษัทฯจะได้รับกระแสเงินสดจากการจำหน่ายหุ้นสามัญของกลุ่มบริษัทที่จะจำหน่ายไปจำนวน 1,730 ล้านบาท 2) บริษัทฯจะได้รับกำไรทางบัญชีจากการจำหน่ายหุ้นสามัญของกลุ่มบริษัทที่จะจำหน่ายออกไปทั้งหมดรวม 1,375 ล้านบาท 3) กำไรจากการโอนกิจการทั้งหมดของ บริษัท เวสเทิรน์ ยู จำกัด ไม่ก่อให้เกิดภาระภาษีจากการเข้าทำรายการการโอนหุ้น 4) เป็นการปรับแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับนโยบายการประกอบธุรกิจหลัก คือธุรกิจพัฒนา อสังหาริมทรัพย์