ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เตรียมเทรดสินค้าใหม่ Gold-D สัญญาซื้อขายทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% โดยซื้อขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มความสะดวกในการติดตามราคาเทียบกับตลาดทองคำโลก เริ่มซื้อขาย 4 ก.ย.60 พร้อมขยายเวลาซื้อขายทองคำล่วงหน้าไปถึงเที่ยงคืน
น.ส.รินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) เปิดเผยว่า TFEX เตรียมเพิ่มสินค้าใหม่ Gold-D หรือสัญญาซื้อขายที่อ้างอิงทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ซื้อขายกันในต่างประเทศ โดยราคาซื้อขาย Gold-D นั้นจะกำหนดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนติดตามและเปรียบเทียบกับราคาในตลาดโลกได้สะดวกมากขึ้น แต่ยังคงต้องวางหลักประกันและชำระราคาเป็นเงินบาท และสามารถรับมอบส่งมอบทองคำจริงได้เมื่อครบอายุสัญญา
Gold-D เริ่มซื้อขายในวันที่ 4 ก.ย.60 โดยใช้กลไกเดียวกับการซื้อขายสินค้าอื่นใน TFEX และต้องวางหลักประกันประมาณ 3-5% ของมูลค่าสัญญา ทั้งนี้ ในวันที่ 4 ก.ย.นั้น TFEX จะขยายเวลาซื้อขายในช่วงกลางคืนของสินค้าที่อ้างอิงกับทองคำทั้งหมด โดยเปลี่ยนจากเดิม 19.30-22.30 น. ไปเป็น 19.00-23.55 น. ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในช่วงที่ตลาดทองคำสำคัญของโลกเปิดซื้อขายได้สะดวกขึ้น
“การเพิ่มสินค้า Gold-D ใน TFEX ครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน ก.ล.ต. ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมค้าทองคำ ผู้ประกอบการ และบริษัทสมาชิก ทั้งด้านการพัฒนาสินค้า รวมถึงการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะสินค้าและเทคนิคการซื้อขายแก่ผู้ลงทุนตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และในปีนี้ TFEX ยังคงเดินหน้าจัดสัมมนาให้ความรู้ต่อเนื่องแก่ผู้ลงทุนทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเชื่อว่า Gold-D จะเป็นอีกทางเลือกของการลงทุนทองคำในประเทศ ที่ผู้ลงทุนมั่นใจได้กับระบบการซื้อขายและชำระราคาที่โปร่งใส มีมาตรฐาน และเชื่อถือได้ ซึ่งในระยะถัดไป TFEX จะเปิดให้สามารถรับมอบส่งมอบทองคำจริงได้ทุกวันอีกด้วย" นางรินใจ กล่าว
น.ส.รินใจ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่าปริมาณการซื้อขาย Gold Future เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 25,000 สัญญาในปี 59 เป็น 50,000 สัญญา ณ สิ้นเดือน ก.ค.60 และการเพิ่มสินค้า TFEX Gold-D จะช่วยอำนวยความสะดวก และลดความสับสนในการลงทุน เนื่องจากการซื้อขายเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ไม่ต้องมีการแปลงค่าเงินและทำให้นักลงทุนติดตามราคาทองคำที่เป็นราคาตลาดโลกได้ง่ายขึ้น
สำหรับการพัฒนาสินค้านี้จะทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มมากขึ้น แต่ในระยะยาวยังไม่สามารถตั้งเป้าหมายปริมาณสัญญาซื้อขายที่แน่นอนได้ เพราะต้องให้นักลงทุนทำความเข้าใจสินค้าก่อน เนื่องจากยังเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องใช้เวลาในการศึกษา และนักลงทุนต้องทยอยเปลี่ยนมาเทรดในซีรี่ย์ Z แทนซีรี่ย์ U ที่จะหมดอายุในเดือน ก.ย.นี้
นางเกศรา มัญชุศรี รองประธานกรรมการ TFEX กล่าวว่า ในปี 59 ทั่วโลกมีปริมาณการซื้อขายในตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้ากว่า 25 ล้านล้านสัญญา โดยเป็นการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ถึง 25% ซึ่งได้แก่ สินค้าเกษตร น้ำมัน ทองคำ เป็นต้น หรือ คิดเป็นประมาณ 6 ล้านล้านสัญญา ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของสัญญา GOLD 10 ใน TFEX ตั้งแต่สิ้นปี 59 ถึงวันที่ 1 ก.ย.60 อยู่ที่ 13,800 สัญญา โดยในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าปัจจัยการเมืองต่างประเทศอาจส่งผลกระทบปริมาณการซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้า
ด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อาจจะเป็นการเพิ่มขึ้นแบบชะลอตัว เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง และสถานการณ์ด้านการเมืองระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธเป็นผลสำเร็จ โดยราคาทองล่าสุดเปิดมาที่ 1,334 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 2 ปี
คำแนะนำกับนักลงทุนที่สนใจลงทุนทองคำในช่วงนี้ควรเน้นไปที่การลงทุนในระยะสั้น เนื่องจากปัจจุบันราคาทองคำยังมีความผันผวนจากความไม่แน่นอนของปัจจัยทางด้านการเมืองของโลก และ แนวโน้มราคาทองคำจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง โดยคาดว่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวต้านที่ 1,350-1,375 เหรียญ/ออนซ์ และแนวรับที่ 1,325 เหรียญ/ออนซ์
ส่วนการเปิดซื้อขาย TFEX Gold-D ในครั้งนี้ ประเมินปริมาณการซื้อขาย TFEX Gold-D จะเติบโตขึ้น 3 เท่าภายใน 3 เดือนนี้ ซึ่งมากกว่าการซื้อขายของ TFEX Gold 10 จากปัจจุบันอยู่ที่ 13,800 สัญญา/วัน เนื่องจากจากซื้อขายอิงกับตลาดโลก และมองว่าสินค้าใหม่นี้จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับนักลงทุนเพิ่มขึ้น
นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า สภาพตลาดทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากปัจจัยการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มีโอกาสพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ไม่มาก ซึ่งมีผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงอ่อนค่าต่อ และมีเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยเสริมจากการที่เกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธเป็นผลสำเร็จส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้อีก
ทั้งนี้ มองว่าราคาทองคำอาจจะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,400 เหรียญ/ออนซ์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,338 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเช้านี้ 1% หรือคิดเป็น 12 เหรียญ/ออนซ์ โดยเดือนนี้มองแนวโน้มราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบระดับแนวต้าน 1,350 เหรียญต่อออนซ์
“ระดับราคาทองคำที่ 1,400 เหรียญต่อออนซ์ เป็นระดับที่ยากที่จะขึ้นไปทดสอบ แต่ความเป็นไปได้มากที่สุดจะอยู่ที่ระดับ 1,350-1,375 เหรียญ/ออนซ์ ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศประเมินแนวรับอยู่ที่ 20,600 บาท และแนวต้าน 20,900 บาท"นายกฤรัตน์ กล่าว
ส่วนการซื้อขาย TFEX Gold-D ประเมินว่าภายในระยะเวลา 1 เดือนหลังจากเปิดเทรดวันนี้เป็นครั้งแรกคาดว่าจะมีปริมาณสัญญาเพิ่มขึ้นเป็น 50,000-100,000 สัญญาในไม่ช้า เพราะแนวโน้มราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อ แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ เช่น การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนนี้ และ ความขัดแย้งของเกาหลีเหนือและสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำ