ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายที่มุ่งสร้างการรับรู้ถึงจุดแข็งของการบริการที่มีคุณภาพและความทันสมัยของระบบการจัดส่งพัสดุ และเป็นรายเดียวในตลาดที่มีนวัตกรรมบริการส่งพัสดุด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิ เดินหน้าขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุม ซึ่งปัจจุบันได้ขยายพื้นที่บริการสู่ภาคตะวันออกแล้ว และเตรียมขยายบริการครอบคลุมทุกภูมิภาคตามหัวเมืองใหญ่ภายในปีนี้ และครอบคลุมทั่วประเทศในช่วงกลางปี 61 ทั้งยังเดินหน้าเปิดจุดรับบริการอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ 300 สาขาภายในปีนี้
โดยขณะนี้เปิดศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Point) ไปแล้ว 4 สาขา ได้แก่ พื้นที่เขตบางซื่อ, รัชดาภิเษก, รังสิต และบรรทัดทอง และเปิดจุดบริการตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส ไปกว่า 110 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคตะวันออก
"จากการสำรวจความต้องการในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซและผู้บริโภคทั่วไปพบว่า จุดรับบริการเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการส่งพัสดุด่วน โดยผู้บริโภคต้องการจุดให้บริการที่สะดวกสบาย รวดเร็ว มีที่จอดรถและสิ่งอำนวยความสะดวก ดังนั้น เอสซีจี เอ็กซ์เพรส จึงมองหาพันธมิตรที่จะมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านจุดรับบริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีที่สุด จึงได้จับมือกับปตท.สถานีน้ำมันชั้นนำของประเทศไทย ที่มีบริการครบครันตอบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพื่อขยายช่องทางในการมอบความสะดวกสบายให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าของทั้ง 2 องค์กรให้กว้างขึ้น ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการขายสินค้าออนไลน์ กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ รวมถึงผู้บริโภคที่มาใช้บริการต่าง ๆ ในสถานีน้ำมัน ปตท."นายโยจิ กล่าว
นายโยจิ กล่าวว่า จากการเปิดให้บริการ 8 เดือนที่ผ่านมา เอสซีจี เอ็กซ์เพรสได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยมียอดใช้บริการมากกว่า 600,000 กล่อง และได้รับฟีดแบคที่ดีจากลูกค้า จากการให้บริการที่มีคุณภาพ เอาใจใส่ และตรงต่อเวลาตามมาตรฐานที่วางไว้ร่วมกันระหว่างเอสซีจีและยามาโตะ เอเชีย โดยหลังจากนี้บริษัทจะเดินกลยุทธ์ผนึกพันธมิตรชั้นนำที่มีโลเคชั่นในจุดยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านหนังสือ เป็นต้น ทั้งยังเปิดรับตัวแทนรับพัสดุให้ได้ตามเป้าหมาย พร้อมให้บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศภายในปีนี้ โดยตั้งเป้ามีผู้มาใช้บริการส่งพัสดุด่วนกับเอสซีจี เอ็กซ์เพรสในปีนี้กว่า 1,000,000 ล้านกล่อง
ด้านนายบุรณิน รัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น ของ PTT กล่าวว่า ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto มีวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้บริโภค ด้วยการนำเทคโนโลยี กลยุทธ์ทางการตลาด และนวัตกรรมด้านบริการมาสร้างประสบการณ์ที่ดีและเหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ดังนั้น บริษัทจึงได้ลงนามความร่วมมือกับ เอสซีจี เอ็กซ์เพรส ในการใช้พื้นที่ศูนย์ฯ FIT Auto ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เป็นจุดบริการตัวแทนรับพัสดุส่งด่วน จึงเป็นอีกหนึ่งบริการที่จะมาสร้างความครบครันให้กับศูนย์ฯ ตอกย้ำ Positioning ในการเป็นศูนย์บริการที่ทันสมัย มีความสะดวกในรูปแบบ One-Stop-Service ที่ไม่เพียงตอบความต้องการด้านซ่อมบำรุงรถยนต์ แต่สามารถให้บริการในรูปแบบที่ครบวงจรตอบโจทย์ผู้บริโภคและผู้ใช้รถยนต์ในปัจจุบัน
"ปตท. มีแผนที่จะพัฒนา FIT Auto ให้มีเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าขยายสาขากว่า 100 สาขา ภายใน 5 ปี โดยปตท. และเอสซีจี เอ็กซ์เพรส จะร่วมกันขยายพื้นที่ให้บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส ให้บริการไปยังภูมิภาคต่าง ๆ โดยพิจารณาตามความเหมาะสมของจุดให้บริการนั้น ๆ ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นว่าการเปิดจุดบริการรับพัสดุในศูนย์ฯ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับปตท. เพิ่มความหลากหลายและความครบครันในการมอบบริการที่ตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญด้วยความเชี่ยวชาญด้านการส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วนของเอสซีจี เอ็กซ์เพรส จะทำให้บริการนี้ได้รับการตอบรับที่ดีในเวลาอันรวดเร็ว"นายบุรณิน กล่าว
ทั้งนี้ จุดบริการตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส ใน FIT Auto สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ปัจจุบันเปิดให้บริการ 18 สาขา ได้แก่ สาขาคลองหลวง, ไพน์เฮริส์ท, บางพูน, พหลโยธิน, เดอะ คริสตัล, ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง, ประเวศ, ลาดพร้าว 71, สนามเป้า, ราษฎร์บูรณะ (ขาออก), บางขุนเทียน, พระราม 2 (ขาออก), บางบอน, วงแหวนกาญจนาฯ, บางทรายบ้านบึง, บางละมุง และโรงแยกก๊าซ ระยอง การให้บริการคิดราคาตามขนาดกล่อง โดยขนาดพัสดุเมื่อวัดแล้ว กว้าง+ยาว+สูง จะต้องมีขนาดไม่เกิน 160 เซนติเมตร และน้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 25 กิโลกรัม เริ่มต้นตั้งแต่ 40 บาท เป็นต้นไป
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ปตท.และ บริษัท เอสซีจี ยามาโตะ เอ็กซ์เพรส จำกัด ได้ร่วมลงนามสัญญาความร่วมมือให้บริการดำเนินธุรกิจให้บริการรับส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วนถึงบ้าน (TA-Q-BIN) ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และศูนย์บริการรถยนต์ FIT Auto โดยจะนำร่องให้บริการสถานีบริการน้ำมัน ปตท. 4 สาขาในเขตกรุงเทพฯ และที่ศูนย์บริการรถยนต์ FIT Auto 18 สาขาในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และในภาคตะวันออกตั้งแต่วันที่ 5 กันยายนนี้ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น