นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) คาดว่ากำไรปีนี้จะทำได้ต่ำกว่าระดับ 56.05 ล้านบาทในปีก่อนเล็กน้อย หลังจากครึ่งแรกปีนี้ทำกำไรสุทธิได้เพียง 16.13 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงปลายปีก่อนบริษัทมีสต็อกวัตถุดิบราคาสูง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ในระดับสูง ทำให้ภาพรวมอัตรากำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3.8% ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ระดับ 6.55%
ขณะที่ในส่วนรายได้ปีนี้น่าจะทำได้เพียงใกล้เคียงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 855.47 ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้เติบโต 10-15% เนื่องจากคำสั่งซื้อจากประเทศอินเดียที่หายไป 4-5 เดือน มูลค่ารวมราว 50-60 ล้านบาท และตลาดมาเลเซียที่ชะลอตัวลงเล็กน้อย ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 60% และ 40% ตามลำดับ จากปีก่อนที่ 50:50
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากแนวโน้มต้นทุนการผลิตในครึ่งปีหลังมีทิศทางต่ำลงกว่าช่วงครึ่งปีแรก ขณะเดียวกันยังมีการจัดกิจกรรมการตลาดกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าจะทำให้ยอดขายตลาดทดแทน ( REM) เติบโตขึ้นในระยะยาว โดยกลยุทธ์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดยางรถจักรยานยนต์ทดแทน ภายในประเทศ โดยการเพิ่มขนาดและลายดอกยางเพื่อให้ครอบคลุมรถรุ่นใหม่ ๆ รองรับความต้องการของผู้บริโภค
"ปีนี้รายได้รวมเราคงพลาดเป้า โดยได้รับปัจจัยหลักจากการเปลี่ยนขนาดยางของลูกค้าในประเทศอินเดียที่ทำให้คำสั่งซื้อหายไป 4-5 เดือน และตลาดในมาเลเซียไม่ค่อยดีด้วย ขณะที่กำไรเองเราก็คาดว่าจะต่ำกว่าปีก่อน เพราะเรามีต้นทุนวัตถุดิบที่สูงไปหน่อย เนื่องจากเราต้องใช้วัตถุดิบที่เราสต็อกไว้ตั้งแต่ปลายปี 59 แต่อย่างไรก็ตามสต็อกดังกล่าวหมดไปแล้ว เราก็จะมีวัตถุดิบอย่าง เช่น ยาง ยางธรรมชาติ และเคมีอื่น ๆ ที่ราคาปรับลดลงมาต่อเนื่อง ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับ บริษัท เอ็น.ดี. เอ็นเนอยี่ ฟิวชั่น จำกัด ที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของทุนจดทะเบียน หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุน 3 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาและวิจัย (R&D) ระบบชาร์จไฟฟ้าไร้สาย และคาดว่าจะเห็นออกมาได้ชัดเจนภายในช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปี ก่อนที่จะหาแนวทางการทำการตลาด และดำเนินกิจการต่อไป