นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) คาดว่ามูลค่างานในมือ (Backlog) ของกลุ่มบริษัท จะขยับขึ้นไปเป็นกว่า 8 พันล้านบาท จาก ณ สิ้นเดือนมิ.ย.60 ที่อยู่ระดับ 5.83 พันล้านบาท หลังในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.นี้ บริษัท สหการวิศวกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เตรียมจะเซ็นสัญญางานใหม่อีก 2 โครงการมูลค่ารวมกว่า 1.5 พันล้านบาท คือ งานโครงการปรับปรุงถนน และงานปรับปรุงขยายระบบน้ำประปา
อย่างไรก็ตามล่าสุดบริษัทย่อยดังกล่าวได้งานใหม่แล้ว 2 โครงการ มูลค่ารวม 63.2 ล้านบาท ได้แก่ งานก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จากการประปาส่วนภูมิภาค และโครงการวางท่อแจกจ่ายน้ำดิบจากบมจ.จัดการและทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) ขณะที่ในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. สหการวิศวกรกับพันธมิตร ยังจะเข้าร่วมประมูลงานรถไฟทางคู่สายเหนือและสายใต้ รวม 4 โครงการ ขณะที่ในส่วนของบริษัทยังจะเข้าประมูลโครงการขนาดใหญ่จากบมจ.ปตท. (PTT) คือโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 เฟสที่ 2 ราคากลางประมาณ 9.18 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเข้าประมูลโดยการร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติ และคาดว่าจะรู้ผลต้นปี 61
ขณะที่เมื่อเดือน ส.ค. บริษัทได้รับ Letter of Award 2 โครงการ คือโครงการ BV4.19 PIG Launcher and Receiver Installation Project จาก ปตท.มูลค่า 229.28 ล้านบาท เป็นงานออกแบบจัดซื้อ ก่อสร้างและทดสอบระบบโครงการติดตั้ง pig launcher และ hot tap ที่สถานีก๊าซ 4.19 โครงการท่อส่งก๊าซเส้นที่ 4 และงานติดตั้ง pig receiver ที่สถานีควบคุมก๊าซวังน้อย จังหวัดสระบุรี และโครงการปรับปรุง Process Plant: RDCC Catalyst Cooler Project Part 2 จาก บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) มูลค่า 492 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังคงศึกษาในการลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ เพื่อก่อให้เกิดรายได้ในระยะยาวที่ยั่งยืน ที่เป็นไปตามเป้าหมายระยะยาว โดยมีทั้งโครงการในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการศึกษาความเป็นไปได้ และการดำเนินการ เพื่อความเหมาะสมและผลตอบแทนสูงสุดต่อบริษัท และผู้ถือหุ้น จากเป้าหมายการลงทุนอย่างน้อย 4 โครงการภายในปี 62 นั้น ปัจจุบันบริษัทได้มีการลงทุนไปแล้ว 2 โครงการ คือการลงทุนในหุ้น APOT ในช่วงปี 55-59 และการลงทุนล่าสุดคือการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ชื่อ บจก.ทีอาร์ซี ยูทิลิตี้ เพื่อดำเนินการโครงการสัมปทานประปาองค์การบริหารส่วนตำบลตาสิทธิ์ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ซึ่งถือว่าเป็น Pilot Project ในการลงทุนลักษณะ Build-Own-Operate
สำหรับความคืบหน้าการเซ็นสัญญางานขนาดใหญ่ คือ สัญญา EPCC โครงการก่อสร้างโรงแต่งแร่โปแตช และระบบสาธารณูปโภค (Turnkey Delivery of APOT Project Package 2. Surface Processing and Facilities) จาก APOT ซึ่งบริษัทได้รับ Letter of Award ตั้งแต่เดือนก.พ.59 นั้น คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญารับเหมาก่อสร้าง มูลค่างานกว่า 3.11 หมื่นล้านบาท (สุทธิจากงาน Early Works 2 ส่วน มูลค่างาน 3 พันล้านบาท ที่ได้ตัดออกมาจากสัญญาใหญ่แล้ว) หลังจากที่ APOT สามารถดำเนินการ Financial Close กับสถาบันการเงินที่สนับสนุนสินเชื่อโครงการ