ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 0.13 จุด แรงซื้อหุ้นพลังงานประคองตลาด นลท.เลือกลงทุนรายตัวรอปัจจัยใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 5, 2017 12:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,619.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.13 จุด (+0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 22,736.86 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยว่าตลาดหุ้นไทยแกว่งกรอบแคบสลับบวก-ลบ หลังเลือกลงทุนรายตัว-รายกลุ่ม เน้นพลังงาน สาธารณูโภค โรงกลั่น จากแนวโน้มผลงานไตรมาส 3/60 ดีกว่าไตรมาส 2/60 แต่แรงซื้อยังแผ่วไร้พลังผลักตลาดรวม ตลาดยังรอปัจจัยใหม่ แม้จะมีประเด็นบวกทางจิตวิทยาเล็กน้อยเรื่องโอกาสจัดการเลือกตั้งในปี 61 ก็ตาม แต่ยังรอความชัดเจนการลด QE ในยุโรป รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด มองดัชนีบ่ายยังคงแกว่งกรอบแคบต่อไป ให้แนวรับ 1,615 จุด และแนวต้าน 1,625 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,619.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.13 จุด (+0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 22,736.86 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,621.63 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,616.33 จุด

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ หลังจากนักลงทุนเลือกลงทุนเป็นรายตัวและรายกลุ่ม ไม่กระจายหลาย ๆ กลุ่มเหมือนก่อนหน้านี้ โดยวันนี้เน้นกลุ่มพลังงาน สาธารณูโภค โรงกลั่น และ สื่อสารบางตัว หลังแนวโน้มกำไรในไตรมาส 3/60 น่าจะดีขึ้นจากไตรมาส 2/60 ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุน

อย่างไรก็ตาม หุ้นที่นักลงทุนเลือกลงทุน ยังเป็นหุ้นขนาดกลางและเล็ก ซึ่งไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยมากนัก ขณะที่ภาพรวมของตลาดยังคงรอปัจจัยใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา แม้ล่าสุดจะมีปัจจัยบวกทางจิตวิทยาบ้างจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดกรอบการทำงานโดยระบุถึงกำหนดจัดการเลือกตั้งในเดือนส.ค.61 แม้จะยังไม่ชัดเจนก็ตาม

ขณะที่ยังต้องจับตาปัจจัยจากต่างประเทศ ทั้งการลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของยุโรป หรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รอบต่อไป หลังจากที่ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐยังไม่ได้เร่งตัวมากนัก ซึ่งประเด็นเหล่านี้ยังไม่มีความชัดเจน ก็จะทำให้เชื่อว่าจะยังมีสภาพคล่องวนอยู่ในตลาดหุ้น

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีจะยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ โดยนักลงทุนยังเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว รายกลุ่มเช่นเดิม โดยให้กรอบแนวรับที่ 1,615 จุด และแนวต้านที่ 1,625 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

III มูลค่าการซื้อขาย 2,367.14 ล้านบาท ปิดที่ 11.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.80 บาท

ASIAN มูลค่าการซื้อขาย 1,804.82 ล้านบาท ปิดที่ 17.90 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 695.41 ล้านบาท ปิดที่ 5.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

DTAC มูลค่าการซื้อขาย 630.58 ล้านบาท ปิดที่ 57.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

PTG มูลค่าการซื้อขาย 563.86 ล้านบาท ปิดที่ 21.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ