GBS มอง SET สัปดาห์นี้แกว่ง 1,610-1,630 จุด แม้วิตกเกาหลี แต่เศรษฐกิจในปท.ดีหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 6, 2017 11:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ถูกแรงกดดันจากความกังวลสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีหลังเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกจากสหรัฐส่งสัญญาณผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศที่มีสัญญาณฟื้นตัวตามการส่งออก และการประมูลโครงการใหญ่ภาครัฐจะเป็นแรงหนุนต่อดัชนี ทำให้ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,610-1,630 จุด

ทั้งนี้ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในการซื้อสะสมหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ PTTGC และ IRPC เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่นสู่ระดับ 10-11 ดอลลาร์/บาร์เรล

ด้านนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ ของ GBS กล่าวว่า ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยมาจากการส่งสัญญาณการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีให้มีผลภายในสิ้นปีนี้ของสหรัฐ บวกกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง จึงคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ประกอบกับการประมูลโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐในประเทศที่เร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปี และกระแส Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Buy ตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ราว 1 พันล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่มีผลลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะนี้มาจากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีหลังเกาหลีเหนือ หลังมีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ระเบิดไฮโดรเจนที่มีการทำลายล้างสูง ขณะที่สหรัฐได้เตือนเกาหลีเหนือหากทำการใดที่เป็นการคุกคามสหรัฐและพันธมิตรของสหรัฐ จะต้องเผชิญกับการตอบโต้ทางทหารครั้งใหญ่

ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ เดือน ก.ย. รัฐบาลจะนำเสนอร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่วนในวันที่ 7 ก.ย. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประชุมนโยบายการเงิน และในวันที่ 19- 20 ก.ย. จะมีการประชุมเฟด

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน ของ GBS กล่าวว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 33.84 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 2.6% สู่ระดับ 1,324 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากตลาดให้ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นถึงกว่า 65% ว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยจนถึงต้นปีหน้า และส่วนใหญ่ให้น้ำหนักว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อจนถึงกลางปีหน้า สอดคล้องกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอลงทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเพียง 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 180,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% สู่ 4.4% และการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐดิ่งลง 0.6% ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน

นอกจากนี้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหลังเกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่นไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิกตั้งแต่สัปดาห์ก่อน อีกทั้งมีการทดลองผลิตระเบิดไฮโดรเจนเพื่อบรรจุในขีปนาวุธข้ามทวีป อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดงบดุลในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. นี้ทำให้ทำให้เงินทุนเริ่มไหลกลับเข้าหาสกุลเงินดอลลาร์และพันธบัตรเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,310-1,365 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาทองคำยังได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลเกี่ยวกับการทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ แต่ให้ระวังแรงขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน 1,355-1,365 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากตั้งแต่ต้นไตรมาสราคาทองคำปรับตัวขึ้น 7.7% และในสัปดาห์นี้จะมีการประกาศดัชนีภาคบริการสหรัฐ คาดว่าจะขยายตัวต่อซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ และการประชุม ECB คาดว่าจะคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จนกว่าจะถึงเดือน ต.ค. 60 ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ