นายสยาม สร้อยทอง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์ และ SBL บล.เออีซี (AEC) เปิดเผยว่า บริษัทวางกลยุทธ์ในการนำเครื่องมือด้านการลงทุน โดยเฉพาะ Block Trade เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าและนักลงทุน เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงมากขึ้น
ทั้งนี้ Block Trade เป็นวิธีการซื้อขายแบบจับคู่ซื้อขาย Single Stock Futures (SSF) ที่ราคาและจำนวนสัญญาที่ตกลงกันไว้ เพื่อช่วยเรื่องสภาพคล่องที่ไม่เพียงพอ ซึ่งต้องยอมรับว่า SSF เป็นตัวช่วยในการเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้พอร์ทการลงทุนของนักลงทุนได้ ขณะเดียวกัน Block Trade ยังเป็นการลงทุนที่ใช้เงินน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ปัจจุบันมีนักลงทุนเริ่มหันมาเล่น Block Trade มากขึ้น
ดังนั้น จากเครื่องมือการลงทุนใหม่ๆ จึงทำให้ทางบริษัทเร่งพัฒนาระบบ รวมถึงอบรมให้ความรู้พนักงานเจ้าหน้าที่การตลาด ให้เข้าถึงระบบการลงทุนในรูปแบบดังกล่าว และสร้างผลตอบแทนได้ทั้งในสภาวะตลาดที่เป็นขาขึ้นและขาลงได้ เพื่อให้ตอบโจทย์การลงทุนได้มากขึ้น
“สำหรับจุดเด่นของ Block Trade คือ การใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่าจากการมีอัตราทด (Leverage) ขณะที่ค่าธรรมเนียมในการลงทุนต่ำกว่าการลงทุนซื้อหุ้นทั่วไป โดยการใช้เงินลงทุนที่น้อยเพียง 10-20% ของมูลค่าจริงๆ แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงหากไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี ซึ่งในส่วนนี้ AECS จะคอยให้คำแนะนำกับลูกค้าอยู่ตลอด ซึ่งบริษัทจะมีโมเดลสำหรับการลงทุนในส่วนนี้คอยแนะนำให้กับลูกค้าอยู่แล้ว"นายสยาม กล่าว
สำหรับมุมมองของ บล.เออีซี ที่ผ่านมา ลูกค้า Block Trade เข้ามาช่วยบริษัทได้ค่อนข้างมาก ในภาวะที่ธุรกิจโบรกเกอร์มีการแข่งขันสูง โดยจำนวนบัญชีที่เพิ่มขึ้น 30% ในปี 59 และเพิ่มขึ้นอีก 20% ในปี 60 ซึ่งลูกค้าในส่วนนี้เกิน 80% เป็นลูกค้าที่มีบัญชีเคลื่อนไหวตลอด ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดของ Block Trade ให้ติด 1 ใน 5 จากปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 5-6% หรืออยู่ในลำดับที่ 5 หรือ 6 จากบริษัทหลักทรัพย์ที่มีการให้บริการ Block Trade ในอุตสาหกรรมทั้งหมดราว 10 ราย
บริษัทได้ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าที่ลงทุนผ่าน Block Trade ให้ครบ 1,000 บัญชี ภายใน 1-2 ปีนี้ จากปัจจุบันมีอยู่ราว 600 บัญชี โดยจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป ซึ่งบริษัทไม่ได้กำหนดมูลค่าการซื้อขายขั้นต่ำ เพียงแต่ต้องส่งคำสั่งตามจำนวนสัญญาขั้นต่ำที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดไว้เท่านั้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมออกโปรโมชั่นเพื่อตอบแทนลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ส.ค.-31 ต.ค. 60 โดยที่ลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขาย Block trade และส่งคำสั่งเพียง 1 ครั้ง ลูกค้าจะได้รับบัตรกำนัลมูลค่า 1,000 บาท และลูกค้ายังจะได้รับดอกเบี้ยต่ำลงเหลือ 5.5% จาก 6% ในช่วงเวลาปกติ
"การออกโปรโมชั่นเป็นเพียงแค่การกระตุ้นในระยะสั้นเท่านั้น แต่เมื่อกลับสู่ช่วงปกติแล้ว บริษัทมั่นใจว่าการให้บริการที่ดีของบริษัทจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าในระยะยาว อย่างการให้บริการในขา short เราถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่มีหุ้นให้ยืม short มาก เนื่องจากการเป็นพันธมิตรกับสถาบันรายใหญ่ๆหลายแห่ง"นายสยาม กล่าว
ส่วนรายได้จากค่าคอมมิชชั่นจากการให้บริการ Block Trade ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ถือว่ามีอัตราการเติบที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้เติบโต 20% เมื่อเทียบกับ 8 เดือนของปี 59 ขณะที่วางเป้าทั้งปีนี้เติบโตในระดับ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ราว 10 ล้านบาท โดยบริการ Block Trade ของบริษัทได้เปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 58 ซึ่งในปีแรกมีรายได้จากค่าคอมมิชชั้นอยู่ที่ 8 ล้านบาท และปี 59 มีรายได้ค่าคอมมิชชั่นเติบโตขึ้น 10% หรือมาอยู่ที่ราว 10 ล้านบาท
บริษัทมองแนวโน้มการเติบโตของการลงทุน Block Trade จะมีจำนวนนักลงทุนที่สนใจเพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะเป็นหนึ่งในช่องทางการลงทุนที่นักลงทุนใช้เงินในการลงทุนไม่มาก อัตราค่าธรรมเนียมไม่สูง เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการการลงทุนระยะสั้น และต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับเหมาะสมในระยะเวลาที่ไม่นาน เพราะการลงทุน Block Trade จะมีการคิดอัตราดอกเบี้ย หากลูกค้าถือสัญญาไว้เป็นระยะเวลาที่นานจะทำให้มีต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และทำให้ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน
ปัจจุบันจำนวนหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดให้สามารถซื้อขายผ่าน Block Trade ได้มีทั้งสิ้น 94 ตัว โดยส่วนมากจะเป็นหุ้นที่อยู่ใน SET100 ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกหุ้นได้ตามที่ต้องการลงทุน นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าในการให้ความรู้และส่งเสริมการลงทุน Block Trade โดยได้ออกบทวิเคราะห์ สำหรับลูกค้าที่ลงทุน Block Trade โดยเฉพาะ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้กับลูกค้าไปตั้งแต่เดือนส.ค. ที่ผ่านมา และยังมีการเดินสายอบรมให้กับนักลงทุนทั้วประเทศอย่างต่อเนื่อง