(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ขึ้นตามตลาดตปท.หลังสหรัฐฯบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้-จับตาประชุม ECB

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 7, 2017 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) คาดว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวขึ้นกัน ภายหลังจากที่ประเด็นการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯได้บรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสแล้ว โดยขยายระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.60 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 29 ก.ย.60 การขยายระยะเวลานี้ทำให้หลีกเลี่ยงการ shut down บางหน่วยงานของรัฐ และส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นทำให้ไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน

อย่างไรก็ดีให้จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คืนนี้ด้วยว่าจะมีการพูดถึงการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ สำหรับบ้านเรานักลงทุนอาจต้องระวังการลงทุนบ้าง หลังจากที่เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิเป็นวันแรก แต่กองทุนในประเทศได้กลับมาซื้อหลังจากที่ได้ขายต่อเนื่อง

พร้อมให้แนวรับ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,626 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 ก.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,807.64 จุด เพิ่มขึ้น 54.33 จุด (+0.25%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,393.31 จุด เพิ่มขึ้น 17.74 จุด (+0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,465.54 จุด เพิ่มขึ้น 7.69 จุด (+0.31%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 75.47 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.76 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 204.11 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 16.93 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.47 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.58 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 19.86 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 ก.ย.60) 1,621.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.88 จุด (+0.05%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 510.10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ก.ย.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 ก.ย.60) ปิดที่ 49.16 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.50 ดอลลาร์ หรือ 1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 ก.ย.60) ที่ 9.88 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.14 แนวโน้มแข็งค่ารับเม็ดเงินยังไหลเข้าต่อเนื่อง มองกรอบวันนี้ 33.10-33.20
  • รัฐบาล-ธนาคารกลางในเอเชียถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและสินทรัพย์ต่างชาติอื่นๆ สูงเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความพยายามที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับสกุลเงินท้องถิ่น โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้น 15% ขณะที่ของไทยโต 14%
  • สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ศึกษาความเหมาะสมแนวทาง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามแนวระเบียงเศรษฐกิจอีอีซีรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ รูปแบบอุตสาหกรรมอนาคต ซูเปอร์คลัสเตอร์ รวม 101 โครงการ วงเงินลงทุน 3.42 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นแผนลงทุนใหม่ไม่รวมอยู่ในแพ็กเกจลงทุน EEC Track (โครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง การพัฒนาขยายท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา)
  • "อภิศักดิ์ ตันติวรงศ์" ระบุ แนวโน้มการจัดอันดับการทำธุรกิจในไทยจากธนาคารโลกปีนี้ดีกว่าปีก่อน หลังธนาคารโลกแจ้งข้อมูลเบื้องต้นไทยมีคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างมากใน 4 เรื่อง "เลขาฯ ก.พ.ร." มั่นใจคะแนนที่ประกาศ ต.ค.นี้ดีขึ้นมาอยู่ในช่วงอันดับกว่า 30 แน่นอน
  • 'ไฮดูเบสท์'ทุนใหญ่จีน-ไทย ทุ่ม 8 หมื่นล้าน ผุดโครงการทรัสซิตี้ เมืองส่งเสริมการค้าและศูนย์แสดงสินค้าระดับโลกครบวงจรสุดของเอเชีย ตั้งเป้าหมายเป็นฮับฟินเทคใหญ่สุดในโลก เผยแบ่งพื้นที่ 6 โซน พร้อมรองรับการเชื่อมต่อจากสนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟฟ้า เมืองธุรกิจ เปิดบริการปี'63

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TU (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) แนะนำ"ซื้อเมื่ออ่อนตัว"ราคาเป้าหมาย 24.70 บาท หากสหรัฐฯปรับลดภาษี คาด TU ประหยัดภาษีได้ราว 300 ล้านบาท/ปี ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5% จากประมาณการของเรา และคาดกำไร Q3/60 ฟื้นในช่วงพีคซีซั่น ปริมาณขายเพิ่มขึ้น ต้นทุนแซลมอนเริ่มลดลง TU ยังหันมาให้ความสำคัญกับการทำกำไรจากเดิมเน้นเพิ่มยอดขาย ราคาหุ้นปรับตัวลดลงสะท้อนต้นทุนปลาทูน่าที่สูงขึ้น เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ
  • MBAX (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท ราคาหุ้นหลังจากนี้ควรสะท้อนปัจจัยพื้นฐานได้ดีขึ้น หลังลูกหุ้นจากการแปลง MBAX-W1 ชุดสุดท้ายเข้าซื้อขายในตลาดหมดแล้ว แนวโน้มกำไร H2/60 มีโอกาสโตแรง Y-Y และกำไรทั้งปีอาจดีกว่าที่เราคาดที่ 70 ลบ. +20% Y-Y จากต้นทุนเม็ดพลาสติก LDPE ที่ลดลง การลดของเสียและต้นทุนการผลิต รวมถึงการนำเงินที่ได้จาก W1 ไปลดหนี้และดอกเบี้ยจ่าย ขณะที่ ยอดขายถุงซิบล็อกยังขยายตัวดีโดยเฉพาะฮ่องกงที่เป็นตลาดใหม่
  • ITEL (ฟินันเซย ไซรัส) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 7 บาท จากประเด็ฯที่ประชุมบอร์ดดีอีเร่งรัดให้ลงทุนเน็ตชายขอบที่กดดันราคาหุ้นขณะนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ