นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล (BM) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 61 จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดโรงงานผลิตแห่งที่ 2 ในช่วงปลายปีนี้ ที่จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้กว่า 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 25,000-30,000 ตันต่อปี
นอกจากนั้น การเจรจาเข้ามาถือหุ้นของพันธมิตรจากญี่ปุ่นคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายปีนี้ โดยจะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนโดยเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 40 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 10% ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะมีหุ้นจากส่วนใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เนื่องจากทางพันธมิตรขอเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 10-20% โดยหลังจากได้ข้อยุติแล้วก็จะร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเข้าไปลงทุนสร้างโรงงานในเมียนมา น่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 61
ส่วนผลประกอบการในปีนี้ บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 850.86 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือที่รอส่งมอบและรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 200 ล้านบาท ทั้งงานในกลุ่มของผู้รับเหมา และกลุ่มการจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ (B2B) โดยจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดได้ภายในปีนี้
ขณะที่กำไรสุทธิปีนี้ตั้งเป้าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 59.42 ล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีผลกำไรลดลงเนื่องจากราคาวัตถุดิบในการผลิตปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะราคาเหล็ก ขณะที่บริษัทได้มีการตกลงราคาขายสินค้าให้กับลูกค้าไว้ก่อนหน้าแล้ว จึงได้รับผลกระทบต่อกำไรในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นที่มีงานเข้ามามาก เชื่อว่าจะทำให้ผลประกอบการออกมาดี หลังจากบริษัทได้เข้าเสนอราคาเพื่อรับงานในกลุ่มผู้รับเหมาหลายโครงการ มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งจะทยอยรู้ผลในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนงานในกลุ่ม B2B ก็ได้รับคำสั่งผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากบริษัทได้รับออเดอร์ใหม่สำหรับผลิตชิ้นส่วนรถตัดอ้อยอีกราว 70-100 คัน/วัน และได้รับคำสั่งผลิตชิ้นส่วนรถเกี่ยวนวดข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 120 คัน/วัน จากปีก่อนที่มีการผลิตเพียง 80 คัน/วัน