นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ด้วยความสำเร็จของคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เฮาส์" (HAUS) บริษัทจึงเตรียมเปิดตัวอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 12,000 ล้านบาทปลายปีนี้ นำร่องด้วยโครงการ taka HAUS (ทากะ เฮาส์) มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอีกเช่นเคย และมั่นใจว่ารายได้รวมของคอนโดมิเนียมในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 25,000 ล้านบาท
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จในคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เฮาส์" (HAUS) ซึ่งพัฒนาแนวคิดมาจากกระแสของโลกปัจจุบัน รวมเทรนด์ SLOW LIFE ซึ่งเข้ากับเทรนด์ ECO-LIVING หรือการใช้ชีวิตที่อิงอาศัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติกลางเมืองใหญ่ จึงทำให้โครงการได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติ ตั้งแต่โครงการแรก “ฮาสุ เฮาส์" (hasu HAUS) ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด URBAN SLOW LIVING ประสบความสำเร็จปิดการขายด้วยยอดขายลูกค้าต่างชาติสูงถึง 48% และโครงการที่ 2 “โมริ เฮาส์" (Mori HAUS) กับแนวคิด TREES OF LIFE ก็ปิดการขายเช่นกัน
นอกจากนั้น ยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในด้านคุณภาพของโครงการที่ดีมาก ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ลูกค้าตรวจรับมอบห้องแล้วถึง 70% จากจำนวนทั้งหมด 262 ยูนิต นับว่าเป็นยอดตรวจรับมอบห้องคอนโดมิเนียมที่สูงและเร็วมากเป็นประวัติการณ์
“คอนโดมิเนียมแบรนด์ “เฮาส์" (HAUS) ที่ผ่านมาทั้ง 2 โครงการ คือ ฮาสุ เฮาส์และโมริ เฮาส์ เป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าชาวญี่ปุ่น ฮ่องกงและสิงคโปร์ เนื่องจากตอบโจทย์ด้านการอยู่อาศัย บรรยากาศดี เงียบสงบ ร่มรื่นด้วยคลองธรรมชาติที่ทอดตัวผ่านพื้นที่สีเขียว สามารถเดินทางเข้าเมืองสู่ย่านธุรกิจได้ง่าย สะดวก ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช รวมถึงให้ผลตอบแทนจากการเช่าสูงถึง 5-7% ต่อปี"นายอุทัย กล่าว