หุ้น BJC ราคาพุ่งขึ้น 5.15% มาอยู่ที่ 51.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 863.01 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.42 น. โดยเปิดตลาดที่ 48.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 51.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 48.50 บาท
บล.บัวหลวง ระบุในวิเคราะห์ฯปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น"ซื้อ"หุ้น บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) จากเดิม"ถือ" เนื่องจากกำไรของ BJC มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 4/60 เป็นต้นไป ซึ่งมาจากทุกธุรกิจของ BJC ที่จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ยังจะได้รับประโยชน์ทางภาษีด้วย หลังจากที่ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ทางด้านภาษีจากดอกเบี้ยของเงินกู้ที่ใช้ในการซื้อกิจการบมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) จนกว่าการปรับโครงสร้างภายในจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/60 และการกลับภาษีส่วนหนึ่งที่จ่ายไปในไตรมาส 1-3 ของปี 60 ก็จะส่งผลให้กำไรต่อหุ้นเติบโตเท่าตัวในไตรมาส 4/60
นอกจากนี้ BJC ยังมีภาพการเติบโตที่ชัดเจนในปี 61 หนุนโดยดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงทั้งในส่วนของ BJC และ BIGC
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ BIGC ฟื้นตัวแกร่ง โดยในไตรมาส 3/60 น่าจะเป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 4/57 ที่ยอดขายสาขาเดิมจะกลับมาเติบโต โดยยอดขายสาขาเดิมในเดือนก.ค.เติบโต 2.7% และเร่งขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 10% ในเดือนส.ค. เนื่องจากมีฐานต่ำในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ประกอบกับยอดขายอาหารแห้งและผลิตภัณฑ์ของใช้ในบ้านสูงขึ้น แนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่งนี้น่าจะต่อเนื่องมายังเดือนก.ย. เนื่องจากปัจจัยบวกดังกล่าวยังคงอยู่ ดังนั้นคาดว่ายอดขายสาขาเดิมในไตรมาสนี้จะขยายตัวได้สูงถึง 6% และจะน่าตื่นเต้นขึ้นอีกในไตรมาส 4/60 เนื่องจากยอดขายสาขาเดิมมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ถึง 7% หนุนโดยฐานที่ต่ำมากในช่วงไว้อาลัยในไตรมาส 4/59 เพื่อสะท้อนปัจจัยการฟื้นตัวแกร่ง จึงได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ BJC ปี 60 และ 61 ขึ้น 4% และ 8% ตามลำดับ
แม้ยอดขายสาขาเดิมของ BIGC จะเติบโตแกร่งในไตรมาส 3/60 กำไรของ BJC อาจชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีฐานสูงจากอัตรากำไรสูงกว่าปกติถึง 17.8% ในไตรมาส 3/59 อีกทั้ง BJC ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ทางด้านภาษีจากดอกเบี้ยของเงินกู้ที่ใช้ในการซื้อกิจการ BIGC จนกว่าการปรับโครงสร้างภายในจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/60 ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยจ่ายสำหรับไตรมาส 3/60 จะยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้นแม้ธุรกิจอื่น ๆ ของ BJC จะเติบโตดี กำไรสุทธิต่อหุ้นจะยังทรงตัวในไตรมาส 3/60