โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง(TPCH) โดยมองแนวโน้มกำไรช่วงครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตจากครึ่งปีแรก หลังจากจะเริ่มทยอยเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) อีก 2 โรงไฟฟ้าใหม่ คือ โรงไฟฟ้าพัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ (MW) เมื่อเดือนก.ค. และโรงไฟฟ้าสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 4/60 ส่งผลให้รับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันยังมองโอกาสการเติบโตของ TPCH ในระยะยาวจากการเดินหน้าเข้าร่วมประมูลโครงการ SPP Hybrid Firm ที่ตั้งเป้าคว้ากำลังการผลิต 70-100 เมกะวัตต์ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ TPCH เพิ่งได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ของโรงไฟฟ้าปัตตานี กรีน เพาเวอร์ (PTG) ขนาด 23 เมกะวัตต์ ซึ่งนอกจากจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้นแล้ว ยังช่วยหนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานในระยะยาวด้วย และดันให้เป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าที่ 200 เมกะวัตต์เป็นไปตามแผนในปี 63
หุ้น TPCH ช่วงบ่ายอยู่ที่ 16.40 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 0.61% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 0.48%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
กสิกรไทย ซื้อ 24.00
กรุงศรี ซื้อ 23.00
โกลเบล็ก ซื้อ 22.20
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 22.00
ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 22.00
ธนชาต ซื้อ 21.00
บัวหลวง ซื้อ 20.00
เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 20.00
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" TPCH ราคาเป้าหมาย 22 บาท/หุ้น โดยมองว่าแนวโน้มของผลการดำเนินงานจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในแง่ของกำไร หลัง COD โรงไฟฟ้าใหม่อีก 2 โรง กำลังการผลิตรวมราว 20 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้า PGP เดินเครื่องผลิตแล้วในไตรมาส 3/60 และช่วงปลายไตรมาส 4/60 จะเดินเครื่องผลิตโรงไฟฟ้า SGP ซึ่งจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ล่าสุดยังได้รับ PPA จากกฟผ. สำหรับโรงไฟฟ้า PTG กำลังการผลิต 23 เมกะวัตต์ ซึ่ง TPCH คาดว่าจะ COD ได้ในช่วงเดือนมี.ค.62 ประกอบกับการเดินหน้าเข้าประมูลโครงการ SPP Hybrid Firm ที่ตั้งเป้าจะได้จำนวนกำลังการผลิต 70-100 เมกะวัตต์ เพื่อผลักดันให้กำลังผลิตไฟฟ้าขึ้นไปแตะระดับ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 63
สำหรับแผนธุรกิจของ TPCH ดังกล่าวค่อนข้างมีความเป็นไปได้สูง ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ในระยะยาว และ TPCH ยังเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงานทดแทนที่น่าสนใจที่สุด เพราะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ให้มาร์จิ้นสูง และมีแนวโน้มของกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในระยะยาว
นักวิเคราะห์บล.บัวหลวง แนะนำ "ซื้อ" TPCH ราคาเป้าหมาย 20 บาท/หุ้น โดยคาดว่ากำไรของ TPCH ในช่วงไตรมาส 3/60 จะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน จากการขายไฟฟ้าโรงไฟฟ้า PGP ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 50 เมกะวัตต์ ในช่วงไตรมาส 3/60 จากไตรมาส 2/60 ที่ มีเพียง 40 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้า SGP กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ คาดจะสามารถขายไฟฟ้าได้ในช่วงปลายไตรมาส 4/60 ซึ่งจะหนุนให้กำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีหน้า
สำหรับปัจจัยหนุนราคาหุ้น TPCH ในระยะสั้นจะมาจากการเซ็น PPA โรงไฟฟ้า PTG โครงการปัตตานี 1 ประกอบกับภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมเริ่มชัดเจนขึ้นจากการเริ่มโครงการ SPP hybrid ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่เตรียมจะเปิดให้ยื่นเข้าประมูลในต้นเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์บล.ธนชาต แนะนำ "ซื้อ" TPCH ราคาเป้าหมาย 21 บาท/หุ้น จากแนวโน้มผลการดำเนินงานของ TPCH ที่จะเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เนื่องจากเริ่มเดินเครื่อง 2 โรงไฟฟ้าใหม่ คือ โรงไฟฟ้า PGP ที่เริ่ม COD วันที่ 7 ก.ค. และโรงไฟฟ้า SGP ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จแล้ว 80% คาดว่าจะ COD ในช่วงไตรมาส 4/60
ขณะที่ยังมองกำไรของ TPCH จะเติบโตต่อเนื่องไปถึงปี 63 เนื่องจากยังมีอีก 6 โรงไฟฟ้าที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ประกอบกับเป้าหมายของ TPCH ที่จะเดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าให้เพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 63 จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD อยู่ที่ 60 เมกะวัตต์