(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นต่อจากแรงเก็งกำไรหลังสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวชัดเจน-เริ่มปรับประมาณการกำไรบจ.ดีขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 8, 2017 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปต่อได้ จากกระแสการเก็งกำไร เนื่องจากไม่มีปัจจัยลบเข้ามา ขณะเดียวกันเรื่องของการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯก็คุยกันได้แล้ว ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะหารือเรื่องการปรับลดวงเงินตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนต.ค. ช่วงนี้ก็คงรอดูเศรษฐกิจไปก่อน ขณะที่เรื่องสำคัญ ๆ ได้ถูกเลื่อนไปปลายปี

ส่วนบ้านเราจะเห็นได้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ขณะที่โครงสร้างกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯจะอิงสินค้าโภคภัณฑ์มาก ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มเห็นการปรับประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนดีขึ้น ทำให้เกิดแรงเก็งกำไรกลับเข้ามา

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ทรงตัวในแดนบวกเล็กน้อย พร้อมมองวานนี้นักลงทุนต่างชาติได้กลับมาซื้อ และกองทุนก็ยังซื้อ ทำให้เป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดฯ ทั้งนี้ให้แนวรับ 1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,637-1,650 จุด โดยเล็งหุ้นที่น่าสนใจที่กลุ่มสื่อสาร, กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มค้าปลีก

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 ก.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,784.78 จุด ลดลง 22.86 จุด (-0.10%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,397.87 จุด เพิ่มขึ้น 4.55 จุด (+0.07%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,465.10 จุด ลดลง 0.44 จุด (-0.02%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 98.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 48.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.41 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.91 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 21.62 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ก.ย.60) 1,632.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.36 จุด (+0.70%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,097.40 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.ย.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ก.ย.60) ปิดที่ 49.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ก.ย.60) ที่ 9.63 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.06 แนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง รับเม็ดเงินไหลเข้าพันธบัตร-ตลาดหุ้น
  • นายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงผลการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3 กับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในปี 2563 ไทยตั้งเป้าการค้าร่วมกับกัมพูชา มูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • โครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-จิระ สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ วงเงิน 9,399 ล้านบาท ซึ่งการประมูลเป็นไปอย่างเรียบร้อยไม่มีข้อร้องเรียนจากผู้ร่วมประมูล ซึ่งตัวแทนบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูลทั้ง 4 ราย มีการเคาะราคาแข่งขันกันทุกเจ้า สำหรับสัญญาที่ 3 นั้นเอกชนที่เสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 9,290 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 109 ล้านบาท คิดเป็น 1.15%
  • ขณะนี้กระทรวงการคลังได้นำร่อง 5 โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ภาครัฐที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านบาท เข้าโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐของประเทศไทย (CoST) โดยสร้างกลไกและมาตรฐานของการเปิดเผยข้อมูล เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในทุกๆ ขั้นตอนที่เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างภาครัฐ โดยการนำร่อง 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีปรับประมาณการจีดีพีเพิ่มเป็น 3.8% จาก 3.3% จากการส่งออก-บริโภคเอกชนที่ดีกว่าคาด แต่เป็นการขยายอย่างกระจุกตัวในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ยังไม่ลงไปถึงเอสเอ็มอี-รายย่อย ด้านสินเชื่อเติบโตดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ คาดค่าบาทสิ้นปีที่ 33.30
  • "สมชัย สัจจพงษ์" ปลัดกระทรวงการคลัง เผยมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวยังไม่มีความคืบหน้า เพราะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังไม่กลับมาหารือกับกระทรวงการคลัง ซึ่งคาดว่า ททท.คงจะไม่ต้องการมาตรการนี้อีกต่อไปแล้ว

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SPALI (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 32.75 บาท (ก่อน XW วันที่ 18 ก.ย.) และ 27 บาท (หลัง XW).ราคาหุ้นปรับลดลงแรงหลังประกาศออก Warrant และงดปันผลปีนี้ จนทำให้ valuation น่าสนใจอีกครั้ง โดย Presale ทำจุดสูงสุดใหม่ปีนี้, backlog สูง หนุนกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 2560-2562
  • ITEL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 7.20 บาท ปรับประมาณการกำไรปี 2560-2561 ขึ้น 3% และ 10% เป็น 132 ล้านบาท (+96% Y-Y) และ 206 ล้านบาท (+56% Y-Y) ตามลำดับ จากการรวมโครงการเน็ตชายขอบของ กสทช. มูลค่าราว 1.87 พันล้านบาท ชอบ ITEL ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่จะทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องใน 3 ปีข้างหน้า จากแรงหนุนของภาครัฐฯ ที่ต้องการสนับสนุนให้ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจมากขึ้น และการเปลี่ยนมาใช้ Private Network ของภาคเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้ PE ที่สูงราว 44 เท่าในวันนี้ลดเหลือเพียง 14 เท่าในปี 2564
  • SPA (ไอร่า) เป้า 15.70 บาท ได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีน ที่กลับมาเป็นปกติ และกำลังทำสถิติจุดสูงสุดใหม่ในเดือนก.ค. พร้อมคากการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีน ยังคงแข็งแกร่งตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า โดย SPA มีเป้าขยายสาขาเพิ่มปีละ 10 สาขาในช่วง 2 ปีข้างหน้า (Secure พื้นที่สำหรับปีหน้าแล้ว 4 แห่ง) ล่าสุดขยายเข้าสู่ตลาดระดับกลางตามหัวเมืองรองต่างๆ รวมถึงสปาระดับ Luxury เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่พำนักในไทย นอกจากนี้ SPA ยังมุ่งเน้นเข้าให้บริการสปาในโรงแรมต่างๆ ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยกว่าสาขาปกติ และคาด SPA ยังมีโอกาสเติบโตในตลาดสปาเพื่อนักท่องเที่ยว ที่มูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านบาท พร้อมประเมินการเติบโตกำไรเฉลี่ย ปี 60-62 สูง 33%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ