นายณวรรธน์ ตริยพงศ์พัฒนา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูบิส (เอเชีย) (UBIS) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปีนี้ลงเหลือเติบโต 10% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตได้ 20% ซึ่งเป็นผลกระทบส่วนใหญ่มาจากยอดขายในประเทศจีนที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากลูกค้ามีการควบรวมกิจการ จึงต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวและทำให้ยอดขายหายไป
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้หันมาเน้นการขยายตลาดอื่นๆเพิ่มเติม ทั้งในตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป และอเมริกาใต้ โดยล่าสุดริ่มมีคำสั่งซื้อแรกเข้ามาจากประเทศเปรู และแม็กซิโก รวมไปถึงบราซิล
"ปีนี้รายได้อาจจะเติบโตไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้เดิม แต่เราก็ยังมีการเติบโตแม้ว่าตลาดในจีนจะชะลอไปบ้าง โดยเราก็จะมาเน้นการขายในประเทศ และขยายไปยังกลุ่มประเทศใหม่ๆอย่างเช่นประเทศบราซิลที่เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้ว และในเดือน ต.ค.นี้บริษัทเตรียมไปออกงานแสดงสินค้าเพื่อหาลูกค้าใหม่ๆเพิ่มเติมด้วย โดยปีนี้สัดส่วนรายได้จะมาจากในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60%"นายณวรรธน์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการทั้งปีคาดว่าจะออกมาขาดทุน หลังบริษัทได้ตั้งสำรองมูลค่า 320 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรกกรณีขายหุ้นในบริษัท แฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (แฟมิลี่) สัดส่วน 40% คืนแก่ บริษัท อาร์เอฟวิชั่น จำกัด และผู้ค้ำประกัน แต่ไม่ได้รับเงิน
แต่อย่างไรก็ตามหากมองกำไรจากผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทคาดว่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 113.41 ล้านบาท
"หากไปมองผลกำไรจากการดำเนินงานปีนี้เรายังถือว่าทำได้ดีใกล้เคียงกับปีก่อนนะ แต่เมื่อเรามีสถานการณ์ที่ไมปกติเราก็ต้องตั้งสำรองไว้ แต่เราก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะมันเกิดขึ้นครั้งเดียว ส่วนการดำเนินงานกับอาร์เอฟวิชั่นและผู้ค้ำประกัน เราก็ต้องรอกระบวนการทางกฎหมายต่อไป"นายณวรรธน์ กล่าว
ส่วนการลงทุนใหม่ๆในปีนี้ยังจะยังไม่มี แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงมองหาการเข้าซื้อกิจการเพื่อเพิ่มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง