ICN เผยนักลงทุนสนใจจอง IPO เพียบมั่นใจพื้นฐาน-P/E 18.37 เท่า พร้อมเทรด 15 ก.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 12, 2017 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส (ICN) กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายที่ 1.84 บาท/หุ้น ระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 ก.ย.60 ปรากฏว่าหุ้นของ ICN ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีศักยภาพสูงในการเติบโต มีความโดดเด่น มีอนาคตสดใส

นอกจากนั้น การกำหนดราคาที่ 1.84 บาท หากคำนวณ P/E Ratio โดยใช้กำไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 กรกฎาคม 59 - 30 มิถุนายน 60) จะเท่ากับ 18.37 เท่า จึงมั่นใจว่า ICN จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเข้าทำการซื้อขายวันแรกได้อย่างประทับใจ

“คาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตสูง จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของผู้บริหารซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจโทรคมนาคมมากว่า 25 ปี และมีทีมงานที่แข็งแกร่ง การเติบโตของบริษัทที่มีรายได้เติบโตต่อเนื่องและก้าวกระโดดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา"นายสมภพ กล่าว

ด้านนายมนชัย มณีไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ICN กล่าวว่า บริษัทถือเป็นผู้ให้บริการรับเหมาวางระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่ครบวงจร ครอบคุลมทั้งการให้บริการบำรุงรักษาและการจำหน่ายอุปกรณ์ทดแทน แม้ ICN จะเป็นบริษัทเล็กเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่เป็นบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น

“การเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ จะทำให้ ICN เข้าถึงแหล่งเงินทุน และสามารถเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตามแผนที่วางไว้ และมั่นใจทีมผู้บริหารจะดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาลควบคู่กับการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น เชื่อว่าเมื่อ ICN เข้าซื้อขายเป็นวันแรกในวันที่ 15 ก.ย.นี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน"นายมนชัย กล่าว

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ 220.80 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และรุกตลาดธุรกิจรับเหมาวางระบบอย่างครบวงจร ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสร้างโอกาสในการรับงานที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ทั้งต่อสถาบันการเงิน คู่ค้าธุรกิจ ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก รวมทั้งลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชน ซึ่งจะช่วยให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งและโดดเด่นต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ