นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไพลอน (PYLON) ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย ยอมรับว่ารายได้และกำไรสุทธิปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 1,077 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 172 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา ภาวะอุตสาหกรรมก่อสร้างชะลอตัวค่อนข้างมาก ส่งผลให้ผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่คาดว่าช่วงปลายปีจะมีทิศทางดีขึ้นมาก จากการฟื้นตัวของงานภาคเอกชนและโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมของภาครัฐ
นายชเนศวร์ คาดว่า ธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4/60 โดยรับผลดีจากโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในช่วงตั้งแต่สิ้นปีเป็นต้นไป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงมีความมั่นใจว่าภาครัฐจะพยายามผลักดันโครงการลงทุนต่างๆให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งบริษัทจะได้ประโยชน์จากงานใหม่ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนที่จะทยอยเปิดประมูลในครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงปีหน้า ซึ่งจะช่วยหนุนมูลค่างานในมือ (Backlog) และผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องในอีก 3 ปีข้างหน้า
“ตั้งแต่ช่วงปลายปี 60 เป็นต้นไป เชื่อมั่นว่า PYLON จะได้รับอานิสงส์จากโครงการลงทุนก่อสร้างของทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายวางแผนจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ในเชิงรุกมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/60 เป็นต้นไป ทำให้จะเริ่มเห็นงานก่อสร้างคึกคักในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ สายสีส้ม เหลือง และชมพู" นายชเนศวร์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 550 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือนี้ราว 60-70% ในขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานฐานรากอีกมากทั้งงานภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง, รถไฟฟ้าสีม่วงใต้, ทางด่วน 2 เส้นทางใหม่ ส่วนต่อขยายสายสีส้มและสีน้ำเงิน และ 2 งานใหญ่ของภาคเอกชน คือ 1. โครงการ One Bangkok สวนลุมไนท์เดิม 2. โครงการ mixed-use บนถนนพระราม 9 โดยคาดว่าจะได้งานราว 20% ของมูลค่างานฐานรากทั้งหมดในตลาดรวม ตามส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบันของบริษัท