นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) คาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะสูงกว่า 10% ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีนับจากปี 57 ที่เคยทำไว้สูงสุดที่ 11.05% เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของงานภาครัฐที่เข้ามามากขึ้น โดยในครึ่งปีแรกบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับ 10.87%
ทั้งนี้ ปริมาณงานที่มากขึ้นส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้ก็จะทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปีเช่นเดียวกัน โดยบริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 2 พันล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกมีรายได้ราว 909 ล้านบาท และช่วงที่เหลือของปีนี้จะรับรู้รายได้จากมูลค่างานในมือ (Backlog) เข้ามาอีก 1 พันล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ทั้งหมด 1.5 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวม Backlog ของงานเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้มอีก 1 พันล้านบาทที่บริษัทเพิ่งได้รับงานเข้ามา
บริษัทยังเดินหน้ารับงานในต่างประเทศเพื่อเสริมศักยภาพการเติบโต หลังจากเข้าไปรับงานเสาเข็มและกำแพงกั้นดินของโครงการแลนด์มาร์กคอมเพล็กซ์ ในเมียนมามูลค่างานราว 100 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4/60 และจะรับรู้รายได้เข้ามาในปี 61 ประกอบกับ จะรับงานโครงการของเอกชนในกัมพูชาเพิ่มเข้ามาอีก 1 โครงการ มูลค่างานราว 100-200 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างและรับรู้รายได้ในปี 61 ทำให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5%
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามและเตรียมยื่นเสนองานมูลค่ารวมราว 1 หมื่นล้านบาท เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง ที่ได้ยื่นเสนองานไปแล้วให้กับทาง บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) อยู่ระหว่างการรอประกาศผล และโครงการ One Bangkok ซึ่งจะยื่นซองเสนอราคาในรอบที่ 2 วันที่ 14 ก.ย. 60
"การรับงานในปัจจุบันจะเน้นงานที่ให้มาร์จิ้นที่ดี และจะไม่เสนอรับงานมากจนเกินไปในช่วงที่มีปริมาณงานออกมามากในช่วงนี้ เพราะปัจจุบันบริษัทได้ใช้กำลังการผลิตที่เกือบจะเต็มที่แล้ว ทำให้ต้องบริหารกำลังการผลิตให้มีประสิทธิภาพก่อนการตัดสินใจรับงาน"นายณรงค์ กล่าว