นายเฮ็นริคคัส แวน เวสเทิร์นดรอป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานบริหารสายการเงิน บมจ.ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด (ASIAN) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปีนี้มีแนวโน้มที่เติบโตจากครึ่งปีแรก จากช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอาหารแช่แข็งและอาหารสัตว์น้ำ ขณะที่ยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตได้ดี จากความต้องการในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีปัจจัยเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจจะกดดันต่อกำไรบ้างเล็กน้อย แต่บริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงค่าเงินทำให้ยังไม่มีความกังวลผลกระทบมากนัก แต่สิ่งที่เกิดผลกระทบต่อธุรกิจค่อนข้างมาก คือ ต้นทุนราคาวัตถุดิบทูน่าที่สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจทูน่าอาจจะได้รับผลกระทบในปีนี้ แต่ยอดขายจากอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตอย่างมากก็น่าจะเข้ามาช่วยชดเชยผลกระทบดังกล่าว ทำให้ยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.05 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมองไปถึงโอกาสการเติบโตของตลาดในประเทศจีนที่เพิ่งเข้าไปรุกตลาดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงและกุ้งแช่แข็ง ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะจีนมีจำนวนประชากรที่มาก ทำให้มีความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงและกุ้งแช่แข็งที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อีกหนึ่งแห่งในเอเชีย ทำให้บริษัทมองว่าในช่วงอีก 2-3 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้จากประเทศจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 10-20% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากประเทศจีนไม่ถึง 1%
โดยประเทศจีนจะเป็นหนึ่งในประเทศหลักในการจำหน่ายสินค้า จากปัจจุบันมีตลาดหลัก ได้แก่ ยุโรป สัดส่วน 27% สหรัฐฯและแคนาดา สัดส่วน 23% ไทย 23% ญี่ปุ่น 12% ตะวันออกกลาง 10% ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 1% และอื่นๆ 4%
ส่วนการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ที่อยู่ระหว่างการศึกษา คือ โครงการคลังสินค้าอัตโนมัติ เพื่อนำมาช่วยเสริมการทำงานและการจัดเก็บสินค้าของบริษัทให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น โดยเตรียมนำโครงการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทภายในปลายปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มลงทุนก่อสร้างในปี 61 ซึ่งมีมูลค่าลงทุนอยู่ที่ 200 ล้านบาท และยังมีงบลงทุนที่เตรียมไว้ใช้สำหรับการขยายไลน์สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มอีก 120 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการสินค้ากลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียมที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตลาดสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงระดับกลางถึงพรีเมียมในประเทศจีนก็เติบโตในระดับที่สูงเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายกลยุทธ์การเติบโตในอีก 3 ปี ข้างหน้า หรือปี 63 ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 1.45 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-12% ต่อปี ส่วนการขยายธุรกิจบริษัทจะพยายามเน้นการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อทำให้มีตัวเลือกที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น