หุ้น PRM ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 10.80 บาท เพิ่มขึ้น 2.80 บาท (+35%) จากราคาขาย IPO ที่ 8.00 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 4,882.81 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 10.80 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 11 บาท และราคาลงต่ำสุด 10.20 บาท
นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พริมา มารีน (PRM) กล่าวว่า บริษัทได้นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นวันแรกในวันนี้ หลังจากที่เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 650 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น และได้รับตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์น้ำมันกึ่งสำเร็จรูปและปิโตรเคมีเหลวทางเรือ การสนับสนุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเลและบริหารจัดการกองเรือ โดยมีแผนขยายกองเรือที่สำคัญในระหว่างปี 2560-2562 ดังนี้
1. ธุรกิจเรือขนส่งฯ โดยบริษัทฯ จะลงทุนเรือขนส่งขนาดบรรทุก 3,000-10,000 DWT ประมาณ 9 ลำ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,340 ล้านบาท คาดรองรับปริมาณขนส่งสินค้าจากการลงทุนในครั้งนี้เพิ่มขึ้น 3,800 ล้านลิตรต่อปี และลงทุนเรือขนส่งขนาดใหญ่ ประมาณ 11 ลำ ประกอบด้วยเรือขนาดประมาณ 14,000 DWT เรือ MR เรือ LR2 เรือ Aframax และเรือ VLCC เพื่อการเติบโตของธุรกิจขนส่ง รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บ FSU มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,890 ล้านบาท คาดจะช่วยเพิ่มปริมาณขนส่งอีก 16,700 ล้านลิตรต่อปี
2. ลงทุนขยายธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บ FSU เพื่อเพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำมันอีก 4 ลำ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 4,200 ล้านบาท รับการเติบโตของอุตสาหกรรมขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ 3. พิจารณาการลงทุนเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบสำหรับแท่งขุดเจาะน้ำมัน (เรือ FSO) ประมาณ 2 ลำ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,090 ล้านบาท รับการเติบโตของธุรกิจการปฏิบัติงานการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันดิบกลางทะเลทั้งในน่านน้ำไทยและประเทศใกล้เคียงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 มีกองเรือที่ให้บริการรวมทั้งสิ้น 24 ลำ และมีแผนขยายกองเรืออย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทำให้พริมา มารีน มีศักยภาพการดำเนินธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันและปิโตรเคมีเหลวทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ รวมถึงขยายเส้นทางการเดินเรือใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ