นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเร่งรัดเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงที่ 2 หัวลำโพง-หลักสอง ให้เร็วขึ้น 2 เดือน เป็นเดือน ก.ค.62 จากกำหนดการเดิมเดือน ก.ย.62 โดยเร่งรัดซีเมนส์ส่งมอบรถไฟฟ้าก่อนจำนวน 3 ขบวนแรกในปลายปี 61 จากกำหนดเดิมเดือน ก.พ.62 จากนั้นจะทดสอบการเดินรถตามระยะเวลา หลังจากนั้นจะทยอยรับรถ
ทั้งนี้ ในปี 62 จะรับมอบรถไฟฟ้าใหม่จำนวน 18 ขบวน และในปี 63 รับมอบจนครบ 35 ขบวน โดยมีการลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินมาจากสินเชื่อ หุ้นกู้ และกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
ขณะที่การเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเส้นทางปัจจุบัน (หัวลำโพง- เตาปูน) มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นหลังจากเชื่อมต่อการเดินรถกับสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ หรือเชื่อมต่อ 1 สถานีเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น โดยสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.56 แสนเที่ยว/วัน จาก 3.39 แสนเที่ยว/วันในเดือน ก.ค.60 ขณะที่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงก็มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 4.76 หมื่นเที่ยว/วัน จากเดิม 3.15 หมื่น/เที่ยว
BEM มองว่าแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าภายในปี 63 จะมีจำนวนผู้โดยสารเติบโตเป็น 5 แสนเที่ยว/วันสำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1 แสนเที่ยว/วัน
นายสมบัติ คาดว่า ในปีนี้กำไรสุทธิจะเติบโต 20% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2.5 พันล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตเร่งตัวของธุรกิจรถไฟฟ้าหลังจากมีการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ทำให้จำนวนผู้โดยสารเติบโตถึง 15% โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารขึ้นมาทำสถิติสูงสุดที่ 4 แสนเที่ยว/วัน
บริษัทจึงปรับประมาณการจำนวนผู้โดยสารในปีนี้เป็นเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 10% มาที่เฉลี่ย 3.5 แสนเทียว/วัน จากจำนวนผู้โดยสาร 3.2-3.3 แสนเที่ยว/วันในวันทำงานของปีก่อน และโดยรวมจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 3.0-3.1 แสนเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเฉลี่ย 2.8-2.9 แสนเที่ยว/วัน จากปกติจำนวนผู้โดยสารเติบโต 3-4% ต่อปี
ส่วนปี 61 คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเติบโต 5% จากที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการเปิดเดินรถ และในปี 62-63 คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
กรรมการผู้จัดการ BEM กล่าวว่า ผลประกอบการในครึ่งหลังของปีนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากไม่มีวันหยุดยาวมาก และมีกิจกรรมมากกว่าในช่วงครึ่งแรกของปีที่มีวันหยุดยาวทั้งสงกรานต์และปิดเทอมใหญ่
ประกอบกับ จำนวนผู้โดยสารมากขึ้นจากการเปิดเดินรถเชื่อมต่อ 1 สถานีจากสถานีเตาปูนไปสถานีบางซื่อ ซึ่งส่งผลดีต่อผลประกอบการของ BEM อย่างชัดเจน โดยก่อนที่จะมีการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าทั้งสองสาย BEM มีรายได้การให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเฉลี่ย 6.99 ล้านบาทต่อวัน และหลังจากเปิดเดินรถเชื่อม 1 สถานีรายได้เพิ่มเป็น 7.72 ล้านบาทต่อวันในเดือน ส.ค. จึงเชื่อว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังของ BEM สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในครึ่งปีแรกของปีนี้ BEM มีรายได้รวม 7,505 ล้านบาท มาจากธุรกิจรถไฟฟ้า 2,230 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 1,432 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 18.54% ทั้งนี้ มีอัตราค่าโดยสารเฉลี่ย 25-26 บาท/เที่ยว โดยในเดือน ก.ค.61 จะได้ปรับอัตราค่าโดยสารตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ปัจจุบัน BEM มีจำนวนรถไฟฟ้า 19 ขบวนๆ ละ 3 ตู้ ในช่วงนี้ที่ยังไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้รถไฟฟ้าได้ ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น บริษัทจะจัดระบบรถไฟฟ้าให้ปรับเพิ่มความเร็วของขบวนรถไฟฟ้าที่วิ่งให้บริการและตารางเดินรถ และจะวิ่งรถเปล่ามารับผู้โดยสารที่สถานีจตุจักรที่มีผู้โดยสารมาก รวมทั้งจัดเพิ่มพนักงานสถานีเพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกในชั่วโมงเร่งด่วน ขณะเดียวกันงานซ่อมบำรุงก็จะจัดเพิ่มกำลังคนและเตรียมแผนงานซ่อมบำรุง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบและขบวนรถไฟฟ้าทั้ง 19 ขบวนมีความพร้อมให้บริการ
ด้านนายอนวัช สุวรรณฤทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ BEM กล่าวว่า แนวโน้มจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มมากขึ้นจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รอบสถานีรถไฟฟ้า ได้แก่ สถานีพระราม 9 ที่มี Super Tower ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในย่านพระราม 9 สถานีเพชรบุรี ที่มีสิงห์ทาวเวอร์ สถานีศูนย์สิริกิติ์ โดยศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จะปรับปรุงศูนย์ และยังมีโครงการเทพประทานที่เป็นโครงการ Mix Used หัวมุมถนน
สถานีลุมพินี จะมีโครงการ One Bangkok ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ สถานีสีลมมีโครงการ Mix Used ที่เป็นโครงการที่ร่วมมือกันระหว่างบมจ.ดุสิตธานี (DTC) และ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) และสถานีสามย่าน ที่จะมีโครงการขนาดใหญ่หัวมุมถนน ทั้งนี้โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้จะช่วยสนับสนุนเพิ่มจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 1 แสนเที่ยว/วัน นอกจากนี้ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงก็จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารเช่นกัน
รวมทั้งบริษัทมีแผนเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดจะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงที่ 2 หัวลำโพง-หลักสอง ในช่วงเดือน ก.ค.62 และช่วงที่ 3 เตาปูน-ท่าพระในเดือน มี.ค.63 ตามกำหนด หลังจากเปิดให้บริการช่วงที่ 1 สถานีเตาปูน-สถานีบางซื่อ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 60 ทั้งหมดจำนวน 38 สถานี ระยะทาง 47 กม. โดยมีอายุสัญญาสัมปทานสิ้นสุดในปี 93 อีกทั้งยังมีโครงการข่ายอื่นที่จะมีการประมูลออกมาต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วยเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เป็นต้น
น.ส.ปาหนัน โตสุวรรณถาวร รองกรรมการผู้จัดการ BEM กล่าวว่า ในปี 61 บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ มูลค่ามากกว่า 5 พันล้านบาท อายุมากกว่า 5 ปี เพื่อรองรับการขยายธุรกิจต่อเนื่อง จากปีนี้ที่บริษัทเพิ่งออกหุ้นกู้ มูลค่า 5 พันล้านบาทแล้ว อายุ 5 ปี และ 7 ปี อีกทั้งปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 1.3 เท่า จึงยังมีความสามารถกู้เพิ่มเพื่อขยายการลงทุนได้