นางสาวอัญชลี สืบจันทรศิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (UPOIC) กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้น่าจะต่ำกว่าปีก่อน เป็นไปตามปริมาณการขายผลผลิตปาล์มที่ลดลงมาที่ 1.1 แสนตัน จากปีก่อน 1.3 แสนตัน เนื่องจากราคาผลปาล์มปรับตัวลดลง และราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนผลผลิตปาล์มที่ได้เพาะปลูกใหม่ทดแทนของรุ่นเดิมจะครบ 4 ปีและเริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ปีหน้า โดยจะไปรับรู้ผลผลิตเต็มที่ในปีที่ 7 ของการเพาะปลูก คือ ในปี 63 ขณะที่สัมปทานสวนปาล์ม อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนไร่ปรับลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ 4,200 ไร่ จากเดิมอยู่ที่ 8,000 ไร่ ส่งผลให้ผลผลิตปาล์มปรับตัวลดลง และยังส่งผลต่อผลตอบแทน (yield) ต่อไร่ปรับตัวลดลงด้วย
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกำไรสุทธิยังประเมินไม่ได้ว่าจะขาดทุนหรือกำไร เนื่องจากมีต้นทุนการรับซื้อปาล์มเข้ามามากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายการดูแลสวน โดยบริษัทคาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตขึ้นเมื่อสามารรถเก็บเกี่ยวผลปาล์มที่ปลูกใหม่ได้เต็มที่
นางสาวอัญชลี กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษามองหาพืชชนิดอื่นๆ เข้ามาทดแทนปาล์ม เพื่อให้รายได้ต่อไร่ดีขึ้น โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้ในเดือน พ.ย.นี้
"สำหรับ UPOIC ปีนี้เราต้องทำใจไปก่อน จากที่ผ่านมาเรามีการ replanting โดยปีหน้าก็จะเริ่มเก็บผลผลิตปาล์มได้ และจะทยอยเพิ่มขึ้น คาดว่าจะสามารถเก็บผลผลิตปาล์มเข้ามาเต็มปีได้ในปี 63 และน่าจะส่งผลให้กำไรเติบโตมากขึ้น"นางอัญชลี กล่าว