โบรกเกอร์ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.สหกลอิควิปเมนท์ (SQ) พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 60 หลังจากช่วงครึ่งแรกของปีนี้ทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นมาที่ระดับ 391 ล้านบาท มากกว่ากำไรทั้งปี 59 ที่ทำได้ระดับ 323 ล้านบาท อีกทั้งกำไรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ยังเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายกำไรทั้งปี โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้การขนและขุดดินของโครงการแม่เมาะ 8 ที่เข้ามามากในช่วงครึ่งปีแรก แม้คาดว่ารายได้จากส่วนนี้อาจจะลดลงจนกระทบต่อผลกำไรในครึ่งปีหลังให้ชะลอตัว แต่ SQ ก็จะยังมีจะรับรู้รายได้จากงานจากโครงการหงสาในลาวเข้ามาช่วยเสริมผลประกอบการทั้งปีนี้ให้ยังคงมีความแข็งแกร่ง
อีกทั้ง SQ ยังมีความน่าสนใจในแง่ของมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่สูงถึงกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะสามารถรองรับรายได้ในอีก 9-10 ปี ข้างหน้า ก็จะเป็นสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคต รวมถึงยังมีโอกาสได้รับงานใหม่เพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานโครงการแม่เมาะ 9 ที่มีโอกาสได้งานค่อนข้างสูง
ราคาหุ้น SQ พักเที่ยงอยู่ที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.82% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 0.14%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
เคจีไอ (ประเทศไทย) ซื้อ 7.40
เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 7.25
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 7.20
กรุงศรี ซื้อ 7.20
บัวหลวง ซื้อ 7.00
นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ปรับประมาณการกำไรของ SQ ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 518 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าอยู่ที่ 450 ล้านบาท หลังจากผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกมีกำไรเพิ่มขึ้นมากอย่างโดดเด่นมาที่ระดับ 391 ล้านบาท เข้าใกล้ประมาณการกำไรทั้งปี 60 โดยกำไรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เติบโตมาจากแรงหนุนของงานขุดขนดินในโครงการแม่เมาะ 8
อย่างไรก็ตาม มองว่ากำไรของ SQ ในครึ่งปีหลังจะลดลงจากครึ่งปีแรกค่อนข้างมาก เพราะโครงการแม่เมาะ 8 มีการขุดขนดินในครึ่งปีหลังน้อยลง แต่ยังมีรายได้ที่เข้ามาจากโครงการแม่เมาะ 7 และโครงการหงสา แต่ไม่ได้มีผลผลักดันต่อภาพรวมของผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังได้อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ความน่าสนใจของ SQ มาจากมูลค่างานในมือ ที่มากถึง 3.6 หมื่นล้านบาท จะสามารถรองรับรายได้ไปอีก 9-10 ปี รวมถึงศักยภาพของการได้รับงานใหม่ในอนาคตที่จะทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่า SQ มีลุ้นที่จะได้รับงานประมูลในโครงการแม่เมาะ 9 ซึ่งเป็นโครงการที่มีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลประมูลในช่วงไตรมาส 4/60 และหาก SQ ชนะประมูลงานก็จะส่งผลบวกต่อ Backlog ที่จะเพิ่มขึ้นอีก 78% จากระดับ 3.6 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน ขณะที่ Backlog ที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถรองรับงานได้อีก 10 ปี เป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในอนาคต
หลังจากที่ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปีนี้ออกมามีกำไรสุทธิที่ค่อนข้างมากใกล้เคียงประมาณการณ์เดิม 403 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีกำไรในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 391 ล้านบาท ทำให้ได้ปรับประมาณการณ์กำไรในปีนี้เพิ่มเป็น 469 ล้านบาท แต่มองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะอ่อนตัวลงจากครึ่งปีแรก เนื่องจากรับรู้รายได้งานขุดดินโครงการแม่เมาะ 8 เข้ามามากแล้ว ทำให้จะมีรายได้จากงานดังกล่าวในช่วงครึ่งปีหลังลดลงอย่างมาก แต่จะมีรายได้จากโครงการหงสาที่มีการขุดดินเพิ่ม และมีงานใหม่ที่เป็นการขุดขนถ่านหินเพิ่มเข้ามาอีกในครึ่งปีหลังของปีนี้
นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง มองว่ากำไรของ SQ ในช่วงไตรมาส 3/60 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยหนุนทั้งในแง่ของราคาและปริมาณการขุดขนดินที่เพิ่มสูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/60 ที่ชะลอตัว เพราะปัจจัยด้านฤดูกาลช่วงหน้าฝน แต่ SQ ยังมีความสามารถในการบริหารจัดการเครื่องจักรในภาวะต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ SQ ยังมีปัจจัยหนุนในแง่ของการได้รับงานเพิ่มในอนาคตที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดโครงการแม่เมาะ 9 จะรู้ผลในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงยังมีข่าวดีที่รออยู่จากการเจรจากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฝผ.) ในการลงเครื่องจักรใหญ่ของโครงการแม่เมาะ 8 ที่คาดว่าจะเร็วกว่าคาด ซึ่งจะหนุนให้รายได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 4/60 เป็นต้นไป