ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) อนุมัติแผนเพิ่มทุนรอบใหม่ด้วยคะแนนเสียง 99.6% ของผู้ที่เข้ามาร่วมประชุม เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายฝูงบินรองรับการเปิดเส้นทางบินใหม่ไปจีน
NOK มีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 1,207 ล้านบาท เป็นจำนวน 2,499.24 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,207 ล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) ในอัตรา 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.50 บาท และจัดสรรรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (NOK-W1) ซึ่งจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้มากกว่าสิทธิ
ขณะที่ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ของ NOK ระบุว่าราคาใช้สิทธิของ NOK-W1 จะประกาศหลังจากวันขึ้น XR เพื่อได้ราคาตลาดก่อนจะกำหนดราคา
นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. NOK เปิดผยในที่ประชุมผู้ถือหุ้น กล่าว่า บริษัทได้เงินเพิ่มทุนครั้งที่แล้วจำนวน 1,227 ล้านบาท นำไปใช้เพิ่มความแข็งแกร่งทั้งด้านการดำเนินงานและด้านเงินทุน และในครั้งนี้ NOK จำเป็นจะเพิ่มทุนอีกครั้ง โดยคาดว่าจะระดมทุนได้ 1,700 ล้านบาท เพราะจะนำไปใช้ในการดำเนินงานเพื่อรองรับการขยายฝูงบินขยายเส้นทางไปประเทศจีน มีการเพิ่มฝูงบินที่สามารถบินไกลได้มากขึ้น ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับความสามารถในการดำเนินงาน
"คราวที่แล้วเราตั้งใจเพิ่มทุน แต่เพิ่มทุนได้ไม่เต็มที่เราต้องการทำให้แผนช้ากว่ากำหนด ถ้าไม่ได้ก็ช้าไป เราอยากให้ นกแอร์เปลี่ยนแปลงให้ดีที่สุด"นายปิยะ กล่าว
นายปิยะ กล่าวว่า บริษัทจะปรับการใช้เครื่องบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยจะทำการบินไปจีนในช่วงกลางคืน ขณะเดียวกันก็จะปลดเครื่องบินเก่าที่จะหยุดสัญญาเช่าให้เร็วขึ้นก่อนกำหนด นอกจากนี้ จะเพิ่มการยอดขายสินค้าหรืออาหารเครื่องดื่มบนเครื่องบินให้มากขึ้นเพื่อเพิ่ม Yield ให้ดีขึ้น เพราะคาดว่าจะทำให้ผลประกอบการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ตัวแทนจาก บล.เอเชียพลัส ที่ปรึกษาการการเงินในการเพิ่มทุนครั้งนี้ กล่าวว่า สาเหตุตั้งราคาขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 1.50 บาท/หุ้น คำนวณจากราคาตลาดขณะนั้นที่ 4.70 บาท และให้ส่วนลด 68% เช่นเดิม จากการเพิ่มทุนครั้งที่แล้วใช้ราคาตลาดและให้ส่วนลด 68% ได้ราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ 2.40 บาท/หุ้น
ณ 30 มิ.ย. 60 NOK มีขาดทุนสะสม 3.8 พันล้านบาท โดยส่วนของผู้ถือหุ้นในส่วนงบการเงินเฉพาะกิจการมีจำนวน 1,092 ล้านบาท ขณะที่งบการเงินรวมมีส่วนผู้ถือหุ้น 152 ล้านบาท
นายศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิกุล ผู้ลงทุนรายย่อย กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า ตนเชื่อว่าการเพิ่มทุน NOK ครั้งนี้คงไม่ได้เงินครบทั้งจำนวนอีกแน่ แต่สำหรับตนเองเหมือนถูกมัดมือชก เพราะถือหุ้น NOK ในราคาสูง จึงต้องใช้สิทธิเพิ่มทุนตามสัดส่วน แต่จะไม่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการตั้งราคาแบบนี้ไม่ใช่มืออาชีพ และไม่ได้คำนึงถึงผู้ถือหุ้นที่ถือไว้ตั้งแต่ราคา IPO ที่ 26 บาท/หุ้น
และเห็นว่าปัญหาของ NOK คือการมี บมจ.การบินไทย (THAI) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ตราบใดที่การบินไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพิ่มทุน 10 รอบก็ไม่พอ ตนอยากเห็นบริษัทเอกชนรายอื่นเข้ามาถือหุ้นใหญ่ เพื่อเข้ามาบริหารให้มีกำไร ไม่อย่างนั้น NOK ไม่มีทางรอด และผู้ถือหุ้นก็ไม่สนใจว่าการบินไทยจะเพิ่มทุน NOK ในครั้งนี้หรือไม่
ปัจจุบัน THAI ถือหุ้น NOK สัดส่วน 21.57% ลดลงจากเดิมถือหุ้นในสัดส่วน 39.2%