นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อบ้านของธนาคารในปีนี้สินเชื่อคงค้างยังเติบโตได้ 6% หรือมียอดสินเชื่อคงค้างในสิ้นปีนี้อยู่ที่ 2.17 แสนล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่ 1.96 แสนล้านบาท โดยครึ่งปีแรกยอดสินเชื่อคงค้างของธนาคารอยู่ที่ 2.04 แสนล้านบาท
ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่ของธนาคารในปีนี้จะติดลบ 7% หรือมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ถึงสิ้นปีนี้อยู่ที่ 5.9 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกสินเชื่อบ้านใหม่ธนาคารปล่อยไปแล้ว 2.5 หมื่นล้านบาท "ในช่วงปลายปีนี้ธนาคารมองว่ายังมีโครงการที่จะโอนอีกมูลค่ารวม 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการของผู้ประกอบการที่เป็นพันธมิตรกับธนาคาร ซึ่งก็มองว่าเป็นโอกาสที่ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่จะเห็นการเติบโตมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้"นายณัฐพล กล่าว
การที่สินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ของธนาคารในปีนี้ที่มีการหดตัวลง เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาธนาคารรุกตลาดสินเชื่อบ้านไปมากแล้ว ประกอบกับ ขณะนี้ธนาคารมีความระมัดระวังความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อไนระดับหนึ่ง เพื่อการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปของธุรกิจสินเชื่อบ้าน และเป็นการเติบโตในทิศทางเดียวหรือใกล้เคียงกับระบบ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงในอนาคต และควบคุมคุณภาพหนี้ให้อยู่ไนระดับที่ดี
ส่วนระดับสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อบ้านของธนาคาร ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 2.4% โดยในสิ้นปีนี้ธนาคารคาดว่าจะคุม NPL ไม่ให้เกิน 2.6% ซึ่งธนาคารจะเน้นการเติบโตที่มีคุณภาพ ในขณะเดียวกันยังคงเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อตามความเหมาะสมในการวิเคราะห์การให้สินเชื่อของลูกค้าแต่ละ
ขณะที่ภาพรวมของสินเชื่อบ้านที่ปล่อยใหม่ของระบบในปีนี้คาดว่าจะติดลบเพียง 2% หรือมียอดปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่อยู่ที่ 5.73 แสนล้านบาท แม้ว่าครึ่งปีแรกตลาดสินเชื่อใหม่จะหดตัวถึง 9% โดยมียอดปล่อยสินเชื่อบ้านไหม่เพียง 2.63 แสนล้านบาท จากผลของการที่ไม่ในช่วงไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมาไม่มีมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐอย่างเช่นในช่วงไตรมาส 1/59 ทำให้สินเชื่อใหม่ปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีการทยอยโอนโครงการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมลก ซึ่งมีโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดที่สร้างเสร็จพร้อมโอนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่ของระบบให้พลิกกลับมาเติบโตได้ 5% หรือมียอดปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 3.09 แสนล้านบาท ราย