โบรกฯเชียร์"ซื้อ"CPALL รับผลบวกแคมเปญแสตมป์ใน H2/60,แผนขยายสาขา-ผลงาน MAKRO หนุนกำไรโตต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 20, 2017 13:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) มองรับผลบวกแคมเปญแสตมป์ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากการจับจ่ายใช้สอยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4/60 แม้ยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales:SSS) ของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากจากการแข่งขันกันเองของแต่ละสาขา แต่ไม่มีผลต่อยอดขายรวมของ CPALL ที่ยังเติบโตได้จากการขยายสาขา ผนวกกับอัตรากำไรขั้นต้น (GRM) ที่ทำได้มากกว่า 20% จะช่วยหนุนผลกำไรปีนี้ให้เติบโตจากปีที่แล้ว

ขณะที่ในระยะยาว CPALL ก็จะยังคงมีกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแผนการขยายร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีเป้าหมายเพิ่มปีละ 700 สาขา รวมถึงยังจะได้รับประโยชน์จากวิถีชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนมาซื้ออาหารพร้อมรับประทานมากขึ้น ตลอดจนผลการดำเนินงานของ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ที่ดีขึ้น จากการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ และภาะค่าใช้จ่ายที่จะทยอยลดลง ก็จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานรวมของ CPALL

พักเที่ยงราคาหุ้น CPALL อยู่ที่ 65 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.21%

          โบรกเกอร์                 คำแนะนำ                 ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ทรีนีตี้                       ซื้อ                        71.00
          แอพเพิล เวลธ์                ซื้อ                        72.00
          ฟินันเซีย ไซรัส                ซื้อ                        74.00
          บัวหลวง                     ซื้อ                        75.00
          ธนชาต                      ซื้อ                        72.00
          เคจีไอ (ประเทศไทย)       Outperform                   77.00
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)           ซื้อ                        72.50

นางสาวศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ CPALL ในไตรมาส 3/60 จะดีกว่าในไตรมาส 2/60 ที่ได้รับผลกระทบจากฤดูกาลที่หน้าฝนมาเร็วกว่าปกติจนส่งผลกระทบยอดขายสินค้าเย็น ขณะที่คาดการณ์ผลกำไรทั้งปี 60 จะเติบโตได้ราว 18% มาที่ระดับ 1.97 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามการขยายสาขาร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แม้ว่ายอดขายจากสาขาเดิมจะไม่ได้เติบโตก็ตาม

ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ยังเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง สวนทางกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายอื่น เนื่องจากยังมีการใช้จ่ายต่อรายมีไม่มากนักราว 66-67 บาท/ใบเสร็จ ทำให้ผู้บริโภคยังคงใช้จ่ายเพิ่มขึ้นได้อีก ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GRM) ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 20%

"ยอดขายสาขาเดิมของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการเปิดสาขาในบริเวณใกล้เคียงกันทำให้เกิดการแย่งกันลูกค้าเอง แต่ไม่ได้ส่งผลต่อยอดขายรวมของ CPALL ที่กลับเพิ่มขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายต่อครั้งที่ไม่สูงมากนัก ทำให้คนยังใช้จ่ายได้เรื่อย ๆ"นางสาวศศิกร กล่าว

นางสาวศศิกร กล่าวว่า ส่วนความกังวลต่อกรณีที่สัญญาร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.จะใกล้สิ้นสุดอายุในอีก 6 ปีข้างหน้านั้น เชื่อว่าหาก ปตท.จะยกเลิกสัญญากับ CPALL ก็จะไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะร้านเซเว่น อีเลฟเว่นที่อยู่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.คิดเป็นราว 10% ของสาขาทั้งหมดที่มีราว 10,000 สาขาในปัจจุบัน ขณะที่ CPALL ยังมีแผนขยายสาขาราว 700 สาขา/ปีก็น่าจะเข้ามาทดแทนส่วนนี้ได้

นอกจากนี้ CPALL ยังจะได้รับผลบวกจากผลการดำเนินงานของ MAKRO ที่ดีขึ้นหลังจากที่ในปีที่ผ่านมา MAKRO มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และยังมีโอกาสเติบโตตามการขยายตลาดในต่างประเทศ ขณะที่ปัจจุบัน CPALL ถือหุ้น 97.88%

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ CPALL ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังขยายตัวต่อเนื่อง จากการขยายสาขาและการออกแสตมป์โปรโมชั่นช่วงวันที่ 24 ก.ค.-23 พ.ย. ขณะที่ในไตรมาส 4 ของทุกปีถือเป็นช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะทำให้อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) พลิกกลับเป็นบวก โดยคาดว่า CPALL จะมีกำไรสุทธิปีนี้ที่ 1.97 หมื่นล้านบาท เติบโตราว 18% จากปีที่แล้ว

ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกในปีนี้ยังขยับขึ้นไม่มาก โดยปรับขึ้นราว 3% นับจากต้นปี เทียบกับ SET ที่ ขยับขึ้นราว 8% ขณะที่ CPALL ขยับขึ้นเพียง 2.8% โดยสัปดาห์ล่าสุดปรับขึ้น 2% เมื่อเทียบรายสัปดาห์ ขณะที่ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่อื่น ปรับขึ้น 6% เมื่อเทียบรายสัปดาห์ ซึ่งถือว่ายัง laggard และยังไม่สะท้อนดัชนีการบริโภคที่ฟื้นตัวตั้งแต่เดือน ก.ค.60

ด้าน บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ CPALL ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะปรับตัวดีขึ้นจากโปรโมชั่นสะสมแสตมป์ในช่วงไตรมาส 3/60 เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ขณะที่ไตรมาส 4/60 คาดว่ายอดขายจะปรับตัวโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่ต่ำในช่วงไว้อาลัยระหว่างไตรมาส 4/59

นอกจากนี้คาดว่ายอดขายยังได้รับแรงหนุนจากการขยายสาขาอีกราว 250 สาขาในช่วงปลายปี ซึ่งคาดว่า CPALL จะสามารถเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 13,000 สาขาตามเป้าภายในปี 64

สำหรับยอดขายของ MAKRO ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ทำให้คาดว่ายอดขายทั้งปี 60 จะขยายตัวได้ราว 6-7% จากปีก่อน ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นและอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายก็คาดว่าทรงตัวจากปีก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ