นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. คาดว่าในงวดปี 61 (ต.ค.60-ก.ย.61) จะมีจำนวนผู้โดยสารเติบโตอย่างน้อย 5% โดยคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 135 ล้านคน และรายได้จะเติบโตมากกว่า 10% จากงวดปี 60 (ต.ค.59-ก.ย.60) ที่คาดรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% และจำนวนผู้โดยสารเติบโต 7% มาที่ 129 ล้านคน โดยแบ่งสัดส่วนเป็นผู้โดยสารต่างประเทศ 56% และผู้โดยสารในประเทศ 44% ซึ่งแนวโน้มผู้โดยสารต่างประเทศจะมีสัดส่วนสูงขึ้น
บริษัทคาดว่าจะเปิดประมูลหาเอกชนเข้ามาดำเนินการพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) และร้านค้าปลีกในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเดือน ก.พ.61 โดยพื้นที่ดิวตี้ฟรีในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ที่มีขนาด 1.1 หมื่นตร.ม., อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 พื้นที่ 5 พันตร.ม. และ อาคารแซทเทิลไลท์ 3 พันตร.ม. รวมทั้งหมด 1.9 หมื่นตร.ม. ส่วนพื้นที่ร้านค้าปลีกในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มีขนาด 2 หมื่นตร.ม. อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มีพื้นที่ 2 หมื่นตร.ม. และอาคารแซทเทิลไลท์ มีพื้นที่ 4 พันตร.ม. รวมทั้งหมด 3.4 หมื่นตร.ม.
อนึ่ง กลุ่มคิงเพาเวอร์ ที่เป็นผู้ประกอบการรายปัจจุบันจะหมดสัญญาในเดือน ก.ย.63
ส่วนการเปิดประมูลในส่วนจุดส่งมอบสินค้าในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Pick Up Counter) จะดำเนินการในปี 62
ทั้งนี้ วันนี้คณะกรรมการ ทอท.มีนโยบายในกรณีการให้สัมปทานผู้ประกอบการร้านค้าปลอดภาษีอากรครั้งต่อไป เมื่อสัญญาแต่ละท่าอากาศยานสิ้นสุดลงให้ดำเนินการโดยใช้วิธีประมูล โดยในส่วนของ Pick Up Counter ให้เป็นไปในลักษณะใช้ร่วมกัน (Common Use) เช่นเดียวกับที่ดำเนินการ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต
นอกจากนั้น นายนิตินัย ยังกล่าวว่า ทอท.คาดว่าในช่วงปลายปี 61 จะสามารถเปิดให้เอกชนเสนอรูปแบบการลงทุนโครงการเชิงพาณิชย์ในพื้นที่แปลง 37 ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ