(เพิ่มเติม) AOT คาดงวดปี 61 ผู้โดยสารโตอย่างน้อย 5% รายได้โตกว่า 10% ทยอยประมูลบริหาร-พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 20, 2017 19:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. คาดว่าในงวดปี 61 (ต.ค.60-ก.ย.61) จะมีจำนวนผู้โดยสารเติบโตอย่างน้อย 5% โดยคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 135 ล้านคน และรายได้จะเติบโตมากกว่า 10% จากงวดปี 60 (ต.ค.59-ก.ย.60) ที่คาดรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% และจำนวนผู้โดยสารเติบโต 7% มาที่ 129 ล้านคน โดยแบ่งสัดส่วนเป็นผู้โดยสารต่างประเทศ 56% และผู้โดยสารในประเทศ 44% ซึ่งแนวโน้มผู้โดยสารต่างประเทศจะมีสัดส่วนสูงขึ้น

บริษัทคาดว่าจะเปิดประมูลหาเอกชนเข้ามาดำเนินการพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) และร้านค้าปลีกในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเดือน ก.พ.61 โดยพื้นที่ดิวตี้ฟรีในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ที่มีขนาด 1.1 หมื่นตร.ม., อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 พื้นที่ 5 พันตร.ม. และ อาคารแซทเทิลไลท์ 3 พันตร.ม. รวมทั้งหมด 1.9 หมื่นตร.ม. ส่วนพื้นที่ร้านค้าปลีกในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มีขนาด 2 หมื่นตร.ม. อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มีพื้นที่ 2 หมื่นตร.ม. และอาคารแซทเทิลไลท์ มีพื้นที่ 4 พันตร.ม. รวมทั้งหมด 3.4 หมื่นตร.ม.

อนึ่ง กลุ่มคิงเพาเวอร์ ที่เป็นผู้ประกอบการรายปัจจุบันจะหมดสัญญาในเดือน ก.ย.63

ส่วนการเปิดประมูลในส่วนจุดส่งมอบสินค้าในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Pick Up Counter) จะดำเนินการในปี 62

ทั้งนี้ วันนี้คณะกรรมการ ทอท.มีนโยบายในกรณีการให้สัมปทานผู้ประกอบการร้านค้าปลอดภาษีอากรครั้งต่อไป เมื่อสัญญาแต่ละท่าอากาศยานสิ้นสุดลงให้ดำเนินการโดยใช้วิธีประมูล โดยในส่วนของ Pick Up Counter ให้เป็นไปในลักษณะใช้ร่วมกัน (Common Use) เช่นเดียวกับที่ดำเนินการ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต

นอกจากนั้น นายนิตินัย ยังกล่าวว่า ทอท.คาดว่าในช่วงปลายปี 61 จะสามารถเปิดให้เอกชนเสนอรูปแบบการลงทุนโครงการเชิงพาณิชย์ในพื้นที่แปลง 37 ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ขณะที่ ที่ประชุมคณะกรรมการ AOT ยังมีมติเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาศักยภาพที่ดินแปลงถนนวัดศรีวารีน้อย 723 ไร่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (1) ศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้า (Airport Logistics Park) (2) ศูนย์กลางการประชุมและแสดงสินค้า (Convention and Exhibition Center) (3) ศูนย์จำหน่ายสินค้าจากโรงงาน (Premium Outlet Center) (4) ศูนย์รวมชุมชนตลาดไทยโบราณและพิพิธภัณฑ์ (Old THAI Style Market & Museum) (5) ศูนย์กลางสำนักงาน (Office Complex) และ (6) กลุ่มอาคารที่พักอาศัย (Residence) ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ในการสนับสนุนกิจการท่าอากาศยานและอุตสาหกรรมการขนส่งโดยภาคธุรกิจสามารถลดต้นทุนในการขนส่งและรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรอบ รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ทอท.อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาพื้นที่เพื่อจัดทำโครงการมีข้อจำกัด คือ มีทางเข้า-ออกด้านเดียวและรูปแปลงที่ดินถนนวัดศรีวารีน้อยมีลักษณะไม่เหมาะสมต่อการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ เนื่องจากมีลักษณะเป็นที่ดินผืนใหญ่ที่ไม่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน และมีที่ดินส่วนบุคคลคั่นอยู่หลายแปลง รวมทั้งมีข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามกฎหมายผังเมือง ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ประเภทชนบทและเกษตรกรรม

ดังนั้น ทอท.จึงได้พิจารณาแนวทางแก้ไขข้อจำกัดดังกล่าว ประกอบด้วย (1) การพัฒนาเส้นทางเข้าออกวัดศรีวารีน้อย 723 ไร่ เพื่อให้สามารถรองรับการจราจรได้หลายช่องทาง การเพิ่มเส้นทางเข้าออกเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดทางเลือกในการเดินทาง (2) การปรับปรุงพัฒนารูปแปลงที่ดินเพื่อให้สามารถรองรับกิจกรรมของโครงการได้ โดย ทอท.จะต้องดำเนินการซื้อหรือแลกเปลี่ยนที่ดินกับเอกชนแปลงข้างเคียงเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินแปลงใหญ่ที่เป็นพื้นที่เดียวติดต่อกัน ซึ่งจะต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับการพัฒนาถนนและเพิ่มเส้นทางเข้า-ออก และ (3) การแก้ไขผังเมือง ทั้งนี้ ทอท.จะประสานหน่วยงานราชการและเอกชนเพื่อดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวต่อไป

คณะกรรมการ ทอท.เห็นชอบแนวทางการดำเนินการแก้ไขข้อจำกัดของการพัฒนาโครงการบนที่ดินแปลงถนนวัดศรีวารีน้อย 723 ไร่ โดยก่อนเริ่มดำเนินการตามแนวทางที่ ทอท.เสนอ ให้มีการดำเนินการเรื่องการแก้ไขผังเมืองให้เสร็จเรียบร้อยก่อน

นายนิตินัย กล่าวว่า ในส่วนที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินของบริษัท แต่ยังต้องลงทุนสาธารณูปโภค และขอปรับเปลี่ยนโซนนิ่งจากปัจจุบันเป็นพื้นที่โซนนิ่งสีเขียวที่ไม่สามารถลงทุนหรือพัฒนาบนที่ดินดังกล่าว คาดว่าใช้เวลา 1-2 ปี อย่างไรก็ดี ข้อดีการใช้พื้นที่ดังกล่าวไม่มีภาระภาษีและสามารถเปิดให้เอกชนได้ระยะยาว 30 ปี

ทั้งนี้ ที่ดินแปลงนี้จะทำ Market Sounding พร้อมกับที่ดินแปลง 37 ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมกัน โดยแปลง 37 มีอายุการเช่าที่ราชพัสดุ เหลือ 15 ปี หรือสิ้นสุดในปี 75 และต้องเสียอัตราผลตอบแทนจากสอนทรัพย์ (ROA) ตามกิจกรรม ได้แก่ พื้นที่ commercial เสียอัตรา 3% ถ้าเป็น Free Zone เสีย ROA 0.01% โดยกลุ่มอาลีบาบาได้เข้ามาทาบทามขอใช้พื้นที่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นคลังสินค้า ซึ่งจะเสียอัตรา 0.01%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ