หุ้น WHA และ AMATA ราคาวิ่งขึ้น โดยเมื่อเวลา 12.02 น.หุ้น WHA บวก 4.09% มาอยู่ที่ 3.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,045.87 ล้านบาท
ส่วนหุ้น AMATA บวก 1.47% มาอยู่ที่ 20.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 101.63 ล้านบาท
บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯมอง บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA), บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) โดดเด่นหลังคณะรัฐมนตรี ผ่านร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือร่างพ.ร.บ. EEC ถือเป็นสัญญาณที่ดี ต่อการลงทุนภาคเอกชน และสอดคล้องกับยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สิ้นสุดไตรมาส 2/60 สูงถึง 3 แสนล้านบาท เพิ่มจากงวดไตรมาส 1/60 ที่มียอดเพียง 6 หมื่นล้านบาท และเป็นที่สังเกตว่า 46% ของยอดเงินที่ขอบีโอไอทั้งหมด เป็นการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ S-curve และ New S-curve ทำให้ครึ่งแรกของปีนี้ ยอดขอบีโอไอคิดราว 50% ของคาดการณ์ทั้งปี 60 ที่ระดับ 6 แสนล้านบาท และน่าจะเติบโตในระดับนี้ต่อไปได้
กรณีดังกล่าวนับเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวที่ 3 ควบคู่กับการส่งออกและการลงทุนภาครัฐ ซึ่งน่าจะเห็นการซื้อที่ดิน เพื่อลงทุนก่อสร้าง จะเกิดในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า และหลังจากนี้จะเห็นการนำเข้าเครื่องจักร ซึ่งจะทำให้การลงทุนเอกชนมีการการขยายตัวที่ชัดเจนในปี 61 เป็นต้นไป และเป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
โดย WHA ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 3.60 บาท เพราะมีที่ดินอยู่ในพื้นที่ EEC ราว 9 พันไร่ ซึ่งมีจุดเด่นยุทธศาสตร์ทำเลที่เหมาะสม โดยมีนิคมฯ HESIE4 ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ในปีนี้รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ อาทิ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ยานยนต์แห่งอนาคต และ Aerospace Cluster ประกอบกันนิคมฯ ESIE ซึ่งเป็นนิคมที่มีความพร้อมเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นศูนย์รวม Automotive Cluster ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้กำลังพัฒนาที่ดินเตรียมจัดตั้งเป็นนิคมฯใหม่อีก 2 นิคมฯ ในพื้นที่จังหวัดระยอง ราคาตลาดมี Upside จำกัดจาก Fair Value ปี 60 จะมี Upside มากขึ้นเมื่อเทียบกับ Fair Value ปี 61 ที่ 4.20 บาท
ขณะที่ AMATA ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 17.50 บาท มีที่ดินในพื้นที่ EEC มากถึงระดับ 1.4 หมื่นไร่ ผนวกกับมีความได้เปรียบของนิคมอมตะ ซึ่งอยู่ระหว่างการทรานส์ฟอร์มเทคโนโลยีสู่รูปแบบนิคมฯ Smart City ราคาตลาดเกินมูลค่าหุ้นปี 60 แต่ต่ำกว่าปี 61 ที่ 24.3 บาท