บมจ.ริช สปอร์ต เตรียมความพร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) รวม 200 ล้านหุ้นหลังจากยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ทันภายในปีนี้ โดยมีบล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ RSP เปิดเผยว่า RSP จะแบ่งเสนอขายหุ้นต่อประชาชน 195 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.32% และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย จำนวน 5 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.65% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้
“การเข้ามาระดมทุนใน SET ครั้งนี้ จะเป็นที่จะช่วย ตอกย้ำความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ระดับอินเตอร์ให้กับ บมจ. ริช สปอร์ต ซึ่งเป็นผู้ได้สิทธิในการจัดจำหน่ายสินค้า Converse แบรนด์ชั้นนำระดับโลกแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย" นายสมภพ กล่าว
บริษัทมีแผนจะเดินสายโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนรายย่อย โดยจะทำการโรดโชว์ทั้งสิ้น 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่นเป็นแห่งแรก ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26 ก.ย.และในวันที่ 29 ก.ย.ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, วันที่ 2 ต.ค. ที่จังหวัดเชียงใหม่, วันที่ 12 ต.ค.ที่จังหวัดชลบุรี และปิดท้ายที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 30 ต.ค.นี้
ปัจจุบัน RSP มีทุนจดทะเบียนจำนวน 770 ล้านบาท และมีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 570 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 570 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้วเป็น 770 ล้านบาท และภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ริช สปอร์ต โฮลดิ้ง จำกัด จะลดลงเหลือ 22.21% จากเดิมอยู่ที่ 30%
นางสาวพาพิชญ์ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RSP เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะนำหุ้นเข้ามาจดทะเบียนใน SET เพื่อระดมทุนสำหรับการขยายสาขาและรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตเพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งมีเป้าหมายมุ่งหวังจะเป็นบริษัทชั้นนำในด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ในระดับสากล ด้วยการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียง และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีสินค้าที่มีความหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพเพื่อความยั่งยืนและเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของวงการธุรกิจในด้านแฟชั่น
RSP ได้จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อปี 44 ต่อมาในปี 46 บริษัทฯ ได้รับสิทธิจาก Converse Inc. ในการผลิตสินค้าประเภทรองเท้า Footwear เสื้อผ้า Apparel และเครื่องแต่งกายอื่นๆ ภายใต้ตราสินค้า Converse รวมถึงการใช้ตราสินค้าดังกล่าวในการทำการตลาด ขาย จัดจำหน่าย และโฆษณาประชาสัมพันธ์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการขยายช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน บริษัทมีการจำหน่ายสินค้าทั้งในลักษณะขายปลีกผ่านร้านค้าปลีกของบริษัท และผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้า ล่าสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.60 บริษัทมีร้านค้าปลีกของบริษัทฯจำนวน 41 แห่ง และเคาน์เตอร์จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า 114 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการขายส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าที่เป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์กีฬา ทั้งในลักษณะที่เป็นเครือข่าย (Chain Stores) และร้านค้าทั่วไป และเพื่อเป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญในการจัดจำหน่ายรองเท้าที่ได้รับสิทธิจากตราสินค้าชั้นนำจากต่างประเทศ และเป็นการลดความเสี่ยงทางธุรกิจ เมื่อปลายปี 59 ที่ผ่านมา
บริษัทได้ทำสัญญากับ Pony International Limited ประเทศฮ่องกง โดย RSP ได้รับสิทธิในการออกแบบ ผลิต รวมถึงการใช้ตราสินค้าในการขาย จัดจำหน่าย โฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าภายใต้แบรนด์ Pony แต่เพียงผู้เดียว ในประเทศไทย กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้งนี้ บริษัทเริ่มจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ Pony ในประเทศไทยเมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดยจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก ณ วันที่ 20 ก.ย.60 บริษัทฯ มีเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้า Pony จำนวน 15 แห่ง
สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (57-59) บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 816.72 ล้านบาทในปี 57 เป็น 1,123.53 ล้านบาทในปี 58 และ 1,364.07 ล้านบาท ขณะที่ 6 เดือนแรกปี 60 มีรายได้รวม 601.12 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ (57-59) อยู่ที่ 75.99 ล้านบาท 246.09 ล้านบาท และ 298.76 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.30%, 21.90% และ 21.90% ตามลำดับ
ขณะที่ 6 เดือนแรกปี 60 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 122.16 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 20.32%
นางสาวพาพิชญ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากสินค้าประเภทรองเท้า 80% และ สินค้าที่ไม่ใช่รองเท้า (กระเป๋า หมวก เสื้อผ้า ถุงเท้า) 20% ซึ่งสัดส่วนช่องทางการขยายมาจากสาขาใหญ่ 35% เคาท์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้า 46% และขายส่ง 19% ซึ่งหากแบ่งเป็นสัดส่วนต่างจังหวัดประมาณ 60% และในกรุงเทพฯ 40%
ด้านการต่อสัญญาลิขสิทธิ์ของ CONVERSE มีระยะเวลา 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมามีการต่อสัญญาอย่างต่อเนื่องมา 14 ปี และมีความสัมพันธ์อันดีที่บริษัทฯสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนแบรนด์ PONY มีอายุสัญญา 5 ปี ในขณะเดียวกันบริษัทฯมีแนวคิดในการขยายแบรนด์เพิ่มเติม ซึ่งมีเจรจาอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีแนวทางและข้อสรุปที่ชัดเจนเร็วๆนี้
นายสมภพ กล่าวอีกว่า ผลประกอบการในอดีต 3 ปี ย้อนหลัง (57-59) บริษัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 29% และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับมากกว่า 50% และอัตรากำไรสุทธิที่ประมาณ 20% ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง ส่วนในปีนี้รายได้ของ RSP อาจต่ำกว่าปีก่อน เนื่องจากภาวะกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงตั้งแต่ปลายปี 59 ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ แต่เชื่อมั่นว่าในปี 61 รายได้จะกลับมาฟื้นตัวตามปกติ และโดนเด่นค่อนข้างมาก