นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวกองทุนรวมบัวหลวงหุ้นธรรมาภิบาลไทย หรือ B-THAICG โดยเริ่มเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 2 ตุลาคมนี้ โดยเริ่มลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท ซึ่ง B-THAICG เป็นกองทุนรวมที่มีจุดประสงค์ให้ผู้สนใจลงทุนได้ร่วมสนับสนุนธุรกิจไทยที่มีธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
กองทุน B-THAICG มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ที่มีการกำกับกิจการที่ดี โดยพิจารณาจากการจัดอันดับคะแนน CG Scoring ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย นอกจากนี้บริษัทที่ลงทุนยังต้องได้การรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น (CAC) โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
นางวรวรรณ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังมีนโยบายที่จะนำเงิน 40% ของค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนที่เรียกเก็บจากกองทุน B-THAICG บริจาคให้กับองค์กรหรือโครงการที่ส่งเสริมธรรมาภิบาลไทย และ/หรือ ส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชั่น อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยจัดตั้งคณะกรรมการร่วม เพื่อเป็นผู้พิจารณาการบริจาคอย่างเหมาะสม
“การลงทุนในกองทุนรวม B-THAICG จึงเท่ากับได้ร่วมกันทำความดีถึง 2 อย่าง ทำดีแรก คือ ลงทุนในหุ้นของกิจการที่มีบรรษัทภิบาลที่ดี ร่วมกันสนับสนุนธุรกิจที่ดี และทำดีที่สอง คือ เงินค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน ทางบริษัทฯ ก็จัดสรรบางส่วนไปสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมธรรมาภิบาล และการต่อต้านคอร์รัปชั่น จึงเท่ากับได้ร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยมีธุรกิจที่ดีอีกทางด้วย” นางวรวรรณ กล่าว
นางวรวรรณ คาดว่ายอดขาย กองทุน B-THAICG ในช่วงขาย IPO จะไม่ต่ำกว่าที่บลจ.ไทยพาณิชย์เปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นธรรมาภิบาลไทย (SCBTHAICG) ที่ขายได้ 388 ล้านบาท และที่ผ่านมาบลจ.ทหารไทย ขายได้ 345 ล้านบาท บลจ.ทาลิส ขายได้ 20 ล้านบาท และ บลจ.กรุงไทยอยู่ระหว่างช่วง IPO ขายได้แล้ว 84 ล้าบบาท
ทั้งนี้ ยอดขายไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญ แต่ทั้ง 11 บลจ.ต้องการสนับสนุนบริษัทที่มีธรรมาภิบาล และเป็นองค์กรร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่น โดยบลจ.อื่นจะทยอยออกกองทุนลักษณะนี้ในไตรมาส 3/60 ถึง ไตรมาส 1/61
กองทุน B-THAICG มีทุนจดทะเบียน 5 พันล้านบาท จะสามารถลงทุนหุ้นที่มีธรรมาภิบาล (CG) และ CAC ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ที่ขณะนี้มีอยู่ 123 บริษัท แต่ไม่ได้ลงทั้งหมด โดยจะมีการคัดกรองหุ้นกันอีกครั้ง
นางวรวรรณ มองว่า ปัจจุบันเป็นจังหวะเข้าซื้อ เพราะตลาดหุ้นไทยยัง laggard ราคาหุ้นวันนี้ยังมีแนวโน้มไปต่อได้อกี โดยก่อนเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ตลาดในกลุ่ม TIP ได้แก่ ตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ต่างปรับตัวขึ้น ยกเว้นตลาดหุ้นไทยที่ปรับขึ้นแค่ 1-2% แต่หลังจากเดือนส.ค.ตลาดหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยเริ่มทยอยดีขึ้น การอส่งออก โครงการภาครัฐที่ทยอยลงทุน ทำให้ตลาดหุ้นฟื้นขึ้นมาได้เร็ว และคาดว่าปลายปีนี้จะมีเม็ดเงินจากกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) เข้ามาอีก ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ลงทุนลงทุนหุ้นระยะยาว 3-5 ปี
"ถามว่ากองทุน B-THAICG ทำไมต้องลงทุนในหุ้น เราเห็นว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้น ตลาดหุ้นจะตอบสนองได้ดีก่อน และสิ้นปี ยังมีเม็ดเงินจาก LTF เข้ามา ปีหน้าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยก็ยังดีต่อเนื่อง" นางวรวรรณ กล่าว
นอกจากนี้ในเดือน พ.ย.60 บลจ.บัวหลวง เตรียมเปิดขายกองทุนที่ลงทุนหุ้นในประเทศอินเดียแต่เป็นกองทุน RMF โดยมีลักษณะการลงทุนคล้ายกองทุน B-BARATA ที่เพิ่งเปิดขายไม่นาน โดยมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในอินดียจะยังเติบโตได้ดี
ด้านนางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า กองทุน B-THAICG ถือเป็นหนึ่งโอกาสที่คนไทยจะได้ร่วมกับสนับสนุนธุรกิจที่ดี มีธรรมาภิบาล โดยผู้สนใจสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน B-THAICG เป็นครั้งแรก ได้ที่ธนาคารกรุงเทพ กว่า 1,000 สาขา ทั่วประเทศ และถือเป็นความภูมิใจของธนาคารกรุงเทพในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” ที่ได้ร่วมนำเสนอทางเลือกการลงทุนที่ดีให้แก่ลูกค้า เหมาะกับการลงทุนอย่างยั่งยืนในระยะยาว
กองทุนหุ้นธรรมาภิบาลไทยถือเป็นการรวมพลังร่วมกันของอุตสาหกรรมจัดการกองทุน ที่ต้องการเห็นสังคมไทยดีขึ้นในระยะยาว โดยในเบื้องต้นมี 11 บริษัทที่ออกกองทุนนี้ ได้แก่ กองทุนบัวหลวง บลจ.กรุงไทย บลจ.กรุงศรี บลจ.ทหารไทย บลจ.ทาลิส บลจ.ทิสโก้ บลจ.ไทยพาณิชย์ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) บลจ.กสิกรไทย บลจ.เอ็มเอฟซี และบลจ.บางกอกแคปปิตอล ซึ่งจะทำการทยอยเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกภายในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้