โบรกเกอร์ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โรงพยาบาล ลาดพร้าว (LPH) จากแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งหลังปีนี้ที่เติบโตโดดเด่น โดยจะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 3/60 รับปัจจัยหนุนจากรายได้และมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น ตามการปรับขึ้นของค่าบริการทางการแพทย์ของโครงการประกันสังคมตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
ประกอบกับ ช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่จะมีคนไข้เข้ารักษาพยาบาลมากขึ้น รวมถึงในเดือน ก.ย.ที่จะเปิดใช้อาคารใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการให้บริการผู้ป่วยอีก 30 เตียง สามารถรองรับความต้องการการรักษาทางการแพทย์ที่ซับซ้อนมากขึ้น และยังช่วยให้สามารถขอรับโควตารักษาคนไข้จากโครงการประกันสังคมได้เพิ่มขึ้น
หุ้น LPH ช่วงบ่ายอยู่ที่ 8.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 1.20% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 0.35%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ทิสโก้ ซื้อ 11.40 เอเอสแอล ซื้อ 10.90 ธนชาต ซื้อ 10.80 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 9.80 เออีซี ซื้อ 9.20
น.ส.ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เออีซี กล่าวว่า กำไรของ LPH ในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะกลับมาเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก และครึ่งหลังของปี 59 เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นที่จะมีผู้ป่วยมารักษาด้วยโรคตามฤดูกาลสูงขึ้น และยังมีปัจจจัยบวกจากการขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวของโครงการประกันสังคมเป็น 1,500 บาท/คน/ปี จากเดิมที่ 1,460 บาท/คน/ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยหนุนมาร์จิ้นให้ดีขึ้นจากผลของการประหยัดต่อขนาด
อย่างไรก็ตาม ได้ปรับลดประมาณการกำไรปกติในปีนี้ลดลงเป็น 151 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำไรอยู่ที่ 174 ล้านบาท เนื่องจากกำไรในครึ่งปีแรกที่ประกาศออกมาทำได้ค่อนข้างต่ำ แต่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ LPH ที่มีจุดแข็งเรื่องทำเลที่ตั้งที่มีการขยายตัวของประชากรอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการเพิ่มศูนย์เฉพาะทางซึ่งเป็นธุรกิจใหม่นั้นจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรได้ในระยะยาว
ด้านนายธวัชชัย อัศวพรไชย รองกรรมการผู้จัดการ บล.เอเอสเอล กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ LPH ในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตค่อนข้างโดดเด่น โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้ของโครงการประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้รับการเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว และปรับค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลที่ต้องรับภาระโรคที่มีภาระเสี่ยงจาก 432 บาท/คน/ปี เป็น 447 บาท/คน/ปี
นอกจากนี้ ยังปรับค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยที่มีค่าใช้จ่ายสูงจาก 560 บาท/คน/ปี เป็น 640 บาท/คน/ปี ซ็่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้จากโครงการประกันสังคมปีนี้เพิ่มขึ้น 24% พร้อมกับคาดว่าจำนวนผู้ป่วยประกันสังคมจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 154,000 คนในปี 59 เป็น 161,000 คนในปีนี้ อีกทั้งในช่วงครึ่งปืหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ทำให้ผลการดำเนินงานจะเติบโตขึ้นดีกว่าครึ่งปืแรก และยังคงประมาณการกำไรของ LPH ในปีนี้อยู่ที่ 180 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ บล.ธนชาต คาดว่ากำไรของ LPH จะดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นไป โดยได้ปัจจัยหนุนจากผู้ป่วยเงินสดและผู้ป่วยประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มขึ้นของการเบิกเงินคืนภายใต้โครงการประกันสังคมที่ได้มีการปรับค่าบริการทางการแพทย์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ LPH ยังจะเปิดให้บริการอาคารใหม่ขนาด 30 เตียงในเดือน ก.ย.นี้ สามารถรองรับความต้องการการรักษาทางการแพทย์ที่ซับซ้อนมากขึ้น และยังช่วยให้ LPH สามารถขอรับโควตาจากโครงการประกันสังคมในปีนี้เพิ่มเติม 50,000 คน ซึ่งจะช่วยให้กำไรของ LPH ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้