(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งกรอบจำกัดเล็งแรงหนุนกลุ่มพลังงานรับราคาน้ำมันดีดขึ้น-โมเมนตัมบวก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 26, 2017 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด โดยอาจได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่เมื่อวานนนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้น และตลาดฯก็ยังมีโมเมนตัมเป็นบวกอยู่ แต่ให้รอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคำพิพากษาคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันพรุ่งนี้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน โดยแนะจับตาถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธนี้ และติดตามสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีต่อไป

ทั้งนี้ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนการปิดงบฯไตรมาส 3/60 แต่มองโอกาส Window Dressing อาจเกิดขึ้นไม่มาก เพราะหุ้นก็ขึ้นมามากแล้ว อีกทั้งนักลงทุนคงมองหาหุ้นที่จะมีงบฯดีมากกว่า พร้อมให้จับตาการทำ Short ในตลาดฟิวเจอร์สของนักลงทุนต่างชาติอาจกดดันตลาดฯได้

พร้อมให้แนวรับ 1,657 จุด ส่วนแนวต้าน 1,676 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ก.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,296.09 จุด ลดลง 53.50 จุด (-0.24%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,370.59 จุด ลดลง 56.33 จุด (-0.88%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,496.66 จุด ลดลง 5.56 จุด (-0.22%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 191.73 จุด, -0.70% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.20 จุด, -0.16% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 2.98 จุด, -0.09% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 2.45 จุด, -0.02% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.59 จุด, -0.03% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 8.78 จุด, -0.37% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 48.32 จุด, -0.24%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.ย.60) 1,667.59 จุด เพิ่มขึ้น 8.54 จุด (+0.51%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 588.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ย.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ก.ย.60) ปิดที่ระดับ 52.22 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ 3.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.ย.60) ที่ 8.32 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.12 อ่อนค่า หลังดอลลาร์ฟื้นตัวเหตุตลาดกังวลการจัดตั้งรัฐบาลของเยอรมนี
  • "บัณฑูร" ห่วงแผนปฏิรูปประเทศรัฐบาลไม่กล้าตัดสินใจเปลี่ยนแปลง เหตุอาจไปขัดผลประโยชน์ใครหลายคน ชี้หากไทยปรับตัวไม่ทัน ประเทศและประชาชนเป็นผู้รับผลเสียมากสุด กังวลการเข้ามาของเทคโนโลยีรายใหญ่ ไทยเป็นได้แค่ลูกค้า ขณะที่ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ตกอยู่กับผู้คุมเส้นทางการค้า
  • ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลงนาม โดยนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2560 โดยมีเนื้อหากำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงของประเทศ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามมาตรการกำกับดูแลด้านเงินกองทุน และมาตรการกำกับดูแลอื่นที่มีความเข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากมีความสามารถในการรองรับความเสียหายได้มากขึ้น เพื่อลดโอกาสที่จะประสบปัญหาจนส่งผลกระทบต่อระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจโดยรวม
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics)คาด ธปท. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตลอดปี 2560 จากการลงทุนภาคเอกชนที่เริ่มปรับดีขึ้นจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในอัตราที่สูง อีกทั้งการบริโภคภาคเอกชนก็ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องสนับสนุนโดยรายได้เกษตรกรที่ปรับดีขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเปราะบางเนื่องจากหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง
  • รฟท.เดินหน้าเปิดประมูลที่ดินเชิงพาณิชย์ 3 แปลง 2 แสนล้านบาท ไตรมาสแรกปีหน้า พร้อมเสนอบอร์ด 12 ต.ค. จัดหาหัวรถจักร 100 คัน วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SKN (บมจ. ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สังกัดหมวดวัสดุก่อสร้าง โดยมีราคาขาย IPO 7.35 บาท/หุ้น ด้านบล.ทรีนีตี้ แนะนำ"ซื้อ"ประเมินราคาเป้าหมายสำหรับปี 2561 ที่ 9.30 บาท อ้างอิงระดับ PE ที่ 14.50 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย PE ของบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันในตลาดฯ โดย ณ ราคาเป้าหมายคิดเป็น PEG ที่เพียง 0.40 เท่า

พร้อมประเมิน ณ สิ้นปี 2560 SKN จะมีรายได้รวมราว 1,531 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4%YoY โดยมีอัตราการทำขั้นต้นที่ 35% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ราว 252 ล้านบาท และจะเติบโตอย่างโดดเด่นจากการลงทุนในสายการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 สาย ซึ่งจะส่งผลให้ SKN มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 240,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เป็น 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ภายในกลาง 3Q61 จึงคาดในปี 61 รายได้ของบริษัทเติบโตสูงถึง 36% มาอยู่ที่ 2,084 ล้านบาท

  • FTE (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 4.30 บาท ผู้บริหารปรับเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้เป็น +20% Y-Y จากเดิม +10% Y-Y ใกล้เคียงกับคาดการณ์ที่ +19% Y-Y โดยงานในมือที่มีเกือบ 500 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ช่วงที่เหลือของปี 60-70% ขณะที่กำไรสุทธิจะโตแรงกว่าเพราะมาร์จิ้นขยายตัวจากเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่ากำไรสุทธิจะทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่ 3Q60 (คาด 32 ล้านบาท +17% Q-Q, 36% Y-Y) ซึ่งทำให้ทั้งปีมีโอกาสทำได้ดีกว่าคาดที่ 114 ล้านบาท +31% Y-Y
  • CPALL (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "เก็งกำไร" จากประเด็นรัฐบาลเริ่มแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ประชาชนกว่า 11ล้านคนทั่วประเทศ (ค่าเดินทาง ,ค่าอาหารร้านธงฟ้า และค่าก๊าซหุงต้ม) รวมประมาณ 845 บาท/เดือน ถือเป็นประเด็นบวกทางอ้อมต่อกลุ่มค้าปลีกและการบริโภคในประเทศ ซึ่งคาด CPALL จะได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวด้วย ยอดซื้อต่อบิลประมาณ 67-70 บาท และมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 10,200 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ และบริษัทอยู่ระหว่างการขอ License ขยายสาขาไปยังลาวและกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่การแข่งขัน Modern trade ต่ำ เปิดโอกาสเติบโต พร้อมคาดกำไร 3Q60 เติบโต YoY จากขยายสาขา และกิจกรรมสะสมแสตมป์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ