หุ้น SKN เปิดเทรดวันแรกที่ 9.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.15 บาท (+29.25%) จากราคาขาย IPO 7.35 บาท/หุ้น
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินราคาเป้าหมายสำหรับปี 2561 ของ บมจ. ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (SKN) ไว้ที่ 9.30 บาท อ้างอิงระดับ PE ที่ 14.50 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย PE ของบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันในตลาดฯ โดย ณ ราคาเป้าหมายคิดเป็น PEG ที่เพียง 0.40 เท่า
พร้อมประเมิน ณ สิ้นปี 2560 SKN จะมีรายได้รวมราว 1,531 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราการทำขั้นต้นที่ 35% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ราว 252 ล้านบาท และจะเติบโตอย่างโดดเด่นจากการลงทุนในสายการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 สาย ซึ่งจะส่งผลให้ SKN มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 240,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เป็น 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ภายในกลางไตรมาส 3/61 จึงคาดในปี 61 รายได้ของบริษัทเติบโตสูงถึง 36% มาอยู่ที่ 2,084 ล้านบาท
โดยมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นมาอยู่ที่ราว 40% ผ่านการพัฒนาสูตรเพื่อลดปริมาณกาวซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนหลักของบริษัท ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2561 จะอยู่ที่ 513 ล้านบาท โดย SKN จะรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตใหม่ได้เต็มปีในปี 62 รายได้จึงน่าจะเติบโตได้อย่างโดดเด่นมาอยู่ที่ 3,259 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 56% และมีการกำไรสุทธิอยู่ที่ 856 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ปี 2559-2562 ที่ 48%
SKN มีความน่าสนใจลงทุนจาก (1) ความต้องการแผ่นไม้เอ็มดีเอฟในตลาดโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง (2) ทำเลที่ตั้งของโรงงานรายล้อมด้วยวัตถุดิบ และอยู่ใกล้ท่าเรือ (3) เพิ่มกำลังการผลิตอีก 260,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ภายในกลางไตรมาส 3/61 หนุนการเติบโต (4) ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง มี D/E เพียง 0.14 เท่า ภายหลัง IPO ขณะที่ Cash CycIe ติดลบ และ (5) ผู้บริหารมีประสบการณ์ในธุรกิจกว่า 30 ปี
บริษัทฯดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไฟเบอร์บอร์ดความหนาแน่นปานกลาง (Medium Density Fiber Board) หรือ แผ่นไม้เอ็มดีเอฟ (MDF Board) ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 240,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี สามารถผลิตแผ่นไม้เอ็มดีเอฟได้หลากหลายขนาดตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Custom Made Order) โดยยอดจำหน่ายในต่างประเทศมีสัดส่วนสูงถึง 95-98% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท ภายใต้มาตรฐานสิ่งแวดล้อมสำหรับสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของภูมิภาคยุโรป ได้แก่ E1 และ E2 และของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ CARB P2 ซึ่งเป็นระดับมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ