(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ แต่ยังมีลุ้นบวกจากหุ้นพลังงานหนุน,จับตาประชุมกนง.บ่ายนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 27, 2017 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ โดยต่างรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งก็เป็นปัจจัยหลักของบ้านเรา

โดยตลาดฯคาดการณ์ว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ย แต่ถ้ามี Surprise ก็คือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ก็จะทำให้หุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ไม่ดี แต่ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงการคลังได้ส่งสัญญาณต้องการให้ลดดอกเบี้ย เพราะเงินเฟ้อก็ยังอยู่ระดับต่ำ และทางอินโดนีเซียก็ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไป 2 ครั้งแล้วภายใน 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนบางส่วนเก็งว่ากนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และได้เข้าไปเล่นหุ้นที่ได้ประโยชน์จาการลดอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น หากกนง.ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ก็อาจทำให้มีแรงขายในส่วนนี้ออกมา ทำให้มองว่าหลังจากผลประชุมกนง.ออกมา ตลาดฯมีโอกาสผันผวนได้

อย่างไรก็ดี มองว่าในช่วงเช้าตลาดฯยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกได้บ้าง เนื่องจากราคาน้ำมันเช้านี้รีบาวด์ และมองว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานปลอดภัยที่จะลงทุนในช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยยังต้องติดตามสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ และรอดูแผนการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯจะทำได้หรือไม่ หลังจากที่แผนประกันสุขภาพคงจะไม่ผ่านแล้วในปีนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,675 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 ก.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,284.32 จุด ลดลง 11.77 จุด (-0.05%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,380.16 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด (+0.15%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,496.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.18 จุด (+0.01%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 60.37 จุด ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 9.96 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.74 จุด ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.76 จุด ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 10.96 จุด ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 65.42 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.03 จุด ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.57 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ก.ย.60) 1,669.75 จุด เพิ่มขึ้น 2.16 จุด (+0.13%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 149.66 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ก.ย.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 ก.ย.60) ปิดที่ระดับ 51.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ก.ย.60) ที่ 8.21 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.23 อ่อนค่าต่อจากวานนี้หลังดอลล์แข็ง-คาดกนง.วันนี้คงดอกเบี้ย
  • "แบงก์ชาติ" ประกาศเกณฑ์ใหม่ เน้นกำกับดูแลสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ที่อาจจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจ เข้มงวดเพิ่มขนาดเงินกองทุนขั้นต่ำ อีก 1% ภายในปี 63 เผยมี 5 แบงก์ใหญ่เข้าตามเกณฑ์ ไร้ผลกระทบ เหตุทุกแบงก์เงินกองทุนสูงกว่าเกณฑ์ ขณะนายแบงก์ยันฐานะแกร่ง เงินกองทุนสูง
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบกรอบลงทุนประจำปี งบประมาณ 2561 ของรัฐวิสาหกิจทั้ง 55 แห่ง วงเงิน 846,337 ล้านบาท
  • ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2560 ขยายตัว 3.5% ตามประมาณการในเดือน เม.ย. 2560 ขณะที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะขยายตัวในระดับ 3.6% ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 7.0% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ภาคการส่งออกในปี 2560 คาดการณ์ว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5.0%
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการเข้าครอบครองหรือใช้พื้นที่อสังหาริมทรัพย์เพื่อดำเนินการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์และเข้าใช้พื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสามสาย วงเงินรวมกว่า 1.8 แสนล้านบาท ประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 7.9 หมื่นล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง วงเงิน 5.2 หมื่นล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SSP (บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยราคาขาย IPO ที่ 7.70 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเหมาะสมตามปี 2560 (หลังเพิ่มทุน) ที่ 8.95 บาท ด้วยวิธี SOTP คิดเป็น Implied PE ปี 2560 ที่ 19.0 เท่า และปี 2561 ที่ 15.8 เท่า โดยคาดว่ากำไรปกติในปี 2561 จะโต 20.5% Y-Y และโตเฉลี่ย 16.4% ต่อปีใน 3 ปีข้างหน้า (2560-2563)

บริษัทฯเป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะมีกำลังผลิตไฟเพิ่มจากปัจจุบัน 3.4 เท่าตัว ภายในปี 2563 โดยหลักมาจากโครงการใหม่ในญี่ปุ่น หากการดำเนินงานเป็นไปตามแผน

  • TICON (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 19 บาท กำลังเข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ ด้วยการเติบโตกำไร 240% ปี 2561 และ 16% ปี 2562 จากพื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้น และการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่มขึ้นเป็น 252,000 ตร.ม.ในปี 2561-2562 จาก 59,350 ในปีนี้ และ 170,000 ตร.ม./ปี ช่วง 2557-2559
  • PTTGC (ไอร่า) เป้า 82 บาท คาดผลการดำเนินงานของ PTTGC จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในช่วง 3Q/60 จากการกลับมาผลิตเต็มกำลังของหลายโรงงาน หลังหยุดซ่อมบำรุงจำนวนมากเมื่อช่วง 2Q/60 ขณะที่การเข้าซื้อหุ้นและรับโอนสิทธิบริษัทที่ประกอบธุรกิจปิโตรเคมีจากปตท. เสร็จสิ้นแล้วเมื่อ 3 ก.ค. 2560 คาดสามารถรับรู้ผลกำไรได้ตั้งแต่ช่วง 3Q/60 เป็นต้นไป โดยการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้จะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจของ PTTGC มีความสมบูรณ์และครบวงจรมากขึ้น เบื้องต้นคาด PTTGC จะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จำนวนประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมคาดผลการดำเนินงานของ PTTGC ในปี 60 จะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และได้รับประโยชน์จากการเข้าซื้อกิจการปิโตรเคมีที่เป็นเดิมของ PTT โดยคาดกำไรสุทธิ 30,971 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%
  • TISCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 89 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q60 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ราว 1.57 พันล้านบาท +4.5% Q-Q, +26% Y-Y จากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง, รายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจหลักทรัพย์ (นายหน้าและ IB), และคาด Spread อยู่ในระดับสูงที่ 4.8% จากส่วนผสมของสินเชื่อที่เป็น High-yield loan ขณะที่ สินเชื่องวด ส.ค. 60 เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ เป็นสัญญาณที่ดีของการกระจายตัวของสินเชื่อ โดยคงคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้และปีหน้า +20% Y-Y และ +11% Y-Y

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ