นางสาวศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า บริษัทจะเปิดเสนอขายกองทุนใหม่พร้อมกัน 5 กองทุน โดยคัดสรรกองทุนรวมที่มีนโยบายและผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมาจัดตั้งเป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนสามารถกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 3-10 ต.ค.60
สำหรับกองทุนที่เปิดเสนอขายทั้ง 5 กองทุน ประกอบด้วย 1.กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวไทยออลสตาร์ปันผล (KFLTFSTARD) 2.กองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFSTARRMF) ซึ่งจะใช้กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นไทยเช่นเดียวกันกับกองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์ปันผล (KFTSTAR-D) ที่มีจุดแข็งในหลายด้านทั้งในส่วนของกลยุทธ์แบบ Blend Model เฟ้นหาหุ้นเด่นจากทุกกลุ่มได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านขนาดหรือประเภทหุ้น ลงทุนได้ทั้งหุ้นปันผล หุ้นเติบโตสูง หุ้นขนาดกลาง -เล็ก และใช้กลยุทธ์บริหารพอร์ตเชิงรุก มีความยืดหยุ่นสูงในการปรับสัดส่วนให้เหมาะกับแต่ละภาวะตลาด เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดโดยรวม
หากพิจารณาจากกองทุน KFTSTAR-D ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนในวงกว้าง และภายหลังจากการเปิดตัวมา 6 เดือนสามารถสร้างผลตอบแทน ย้อนหลัง 1 เดือนที่ 5.7% สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่ 3.6% ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนที่ 7.3% สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่ 6.8% และผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนที่ 9.8% สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่ 8.0% (ที่มา:บลจ.กรุงศรี 28 ก.ย. 60)
3.กองทุนเปิดกรุงศรีชีวิตดี๊ดีเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFHAPPYRMF) มีจุดเด่นในการเพิ่มโอกาสสร้างความมั่นคงและเพิ่มการเติบโตของเงินลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมควบคู่ไปการสร้างพอร์ตการลงทุนที่สมดุล สามารถลงทุนอย่างสบายใจและเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวันข้างหน้า ทั้งนี้ กองทุน KFHAPPYRMF มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงศรีชีวิตดี๊ดี (KFHAPPY) ที่มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพไม่น้อยกว่า 75% และมีความยืดหยุ่นในการลงทุนอีกไม่เกิน 25% สำหรับหุ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REIT และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
4.กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGTECHRMF) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากกองทุนหลักที่ลงทุนคือ T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ เช่น AI , Big Data ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก การใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นในหลากหลายรูปแบบทั่วโลก ทำให้กลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
5.กองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFCHINARMF) สร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากศักยภาพในการเติบโตของตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจโดยรวมใหญ่เป็นอันดับต้นของโลก โดยทั้ง 3 ประเทศ มีความได้เปรียบในการแข่งขันบนเวทีโลกที่ต่างกัน อาทิ ประเทศจีนมีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวที่อยู่ในระดับสูง ฮ่องกงมีความโดดเด่นในเรื่องของความเจริญก้าวหน้าและมีความมั่งคั่งในระดับสูงและยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินของโลก ขณะที่ไต้หวันก็มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมระดับโลกและมีบริษัทชั้นนำในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวนมาก ส่งผลให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงทุกโอกาสการลงทุนในกลุ่มประเทศนี้ และด้วยระดับราคาหุ้นที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตทำให้ “Greater China" มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในระยะยาว
"กองทุนใหม่ที่เปิดเสนอขายทั้ง 5 กองทุนประกอบด้วยกองทุน LTF-RMF คู่แฝด ได้แก่ กองทุน KFLTFSTARD และ กองทุนKFSTARRMF ชูศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในหุ้นไทยที่หลากหลายไม่จำกัดประเภทหุ้น และกองทุนKFHAPPYRMF ที่เพิ่มโอกาสสร้างความมั่นคงพร้อมรับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก กองทุน KFGTECHRMF สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงทั่วโลก และกองทุน KFCHINARMF เพิ่มโอกาสเข้าถึง 3 ตลาดสำคัญที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง"นางสาวศิริพร กล่าว