ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,688.21 จุด ลดลง 0.43 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 25,137.39 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,692.85 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,686.75 จุด
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ทรงตัวหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าได้ผ่อนคลายลง โดยเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง ทำให้แรงกดดันของผู้ส่งออกน้อยลงไปด้วย ภายหลังจากที่โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 80% แล้ว และตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯก็ออกมาดี ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นการตอบรับข่าวดีในสหรัฐฯ ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลง
ส่วนบ้านเราก็มีการทำ Preview งบฯไตรมาส 3/60 ซึ่งจะเห็นได้ว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จะเติบโตกว่า 10% และเมื่อเทียบกับงวดปีก่อน จะเติบโตกว่า 20% เนื่องจากมีฐานที่ต่ำ โดยเฉพาะ Sector หลัก อย่างกลุ่มพลังงานจะเติบโตดีมาก เพราะราคาน้ำมันได้ปรับขึ้นไป 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ด้านนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยช่วงนี้เป็นช่วงของการติดตามตัวเลข PMI ทั้งภาคการผลิต และภาคบริการ ของประเทศหลัก ๆ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งในกรอบแคบ แต่โมเมนตัมยังดีอยู่ แม้ดัชนีฯจะติดลบบ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะหากยืนเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,672 จุดได้ ตลาดฯก็ยังดีอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,675-1,670 จุด ส่วนแนวต้าน 1,690-1,700 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GL มูลค่าการซื้อขาย 1,109.26 ล้านบาท ปิดที่ 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท
WPH มูลค่าการซื้อขาย 972.48 ล้านบาท ปิดที่ 4.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.38 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 887.43 ล้านบาท ปิดที่ 418.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 884.81 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 724.14 ล้านบาท ปิดที่ 6.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง