(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นหลังต่างชาติยังมองบวก แต่อาจผันผวนเมื่อใกล้ระดับ 1,700 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 4, 2017 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อยู่ เนื่องจาก Thai Fund ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้ในสหรัฐฯได้ปรับตัวขึ้นแรงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติได้มองบวกตลาดบ้านเรามาก อย่างไรก็ตามเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,700 จุด ก็อาจจะเกิดความผันผวนบ้าง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย แต่มีตลาดในแถบเอเชียเหนือจะบวกได้ดี พร้อมให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้

ทั้งนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงของการ Preview ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งกลุ่มแบงก์เท่าที่ดูคาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 จะออกมาโตกว่าไตรมาสที่แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมได้ส่งสัญญาณที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการบริโภค, การลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการก่อสร้าง ต่างก็มีสัญญาณที่ดี

พร้อมให้แนวรับ 1,684 จุด ส่วนแนวต้าน 1,700 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 ต.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,641.67 จุด เพิ่มขึ้น 84.07 จุด (+0.37%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,531.71 จุด เพิ่มขึ้น 15.00 จุด (+0.23%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,534.58 จุด เพิ่มขึ้น 5.46 จุด (+0.22%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 138.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 15.81 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.14 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 46.74 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.73 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ, ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ต.ค.60) 1,689.97 จุด เพิ่มขึ้น 1.33 จุด (+0.08%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 461.77 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ต.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 ต.ค.60) ปิดที่ระดับ 50.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ต.ค.60) ที่ 6.90 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.34 ยังแข็งค่าต่อเนื่องจากแรงขายดอลล์ นลท.จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดวันนี้
  • กกร.ปรับประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ คาดทั้งปีขยายตัว 3.7-4% ขณะเป้าส่งออก คาดโตถึง 6.5-7.5% หลังส่งออก 8 เดือนโตต่อเนื่อง รายได้จากท่องเที่ยวขยายตัว ดันการใช้กำลังการผลิตหลายอุตสาหกรรม ดันเศรษฐกิจฐานรากฟื้น สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือ ปรับเป้าส่งออกโตไม่ต่ำกว่า 6% ห่วงค่าเงินบาทผันผวน ฉุดรายได้ส่งออก
  • สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีบริษัทเอกชนออกและเสนอขายหุ้นกู้มีวงเงิน 5.8 แสนล้านบาท และคาดว่าทั้งปีนี้เอกชนน่าจะออกหุ้นกู้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 6 แสนล้านบาท
  • "แบงก์ชาติ"ออกประกาศคุมโบรกเกอร์แลกเปลี่ยนเงิน ที่ทำธุรกรรมกับแบงก์ ย้ำต้องมีไลเซ่นส์ จากกระทรวงคลัง ล่าสุดมี 7 บริษัทที่ได้รับอนุญาต ชี้เป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ด้านนักค้าเงิน เชื่อช่วยให้การควบคุมดูแลของ ธปท. ทำได้ง่ายขึ้น ย้ำไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
  • สคร.ศึกษาลดถือครองหลักทรัพย์ของรัฐที่ไม่ได้อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ เล็งขายหุ้น 24 บริษัทได้มาจากการยึดทรัพย์นักการเมือง-มาเฟีย มีทั้งอาบอบนวด บริษัทเหมืองแร่ น้ำตาล ชิ้นส่วนยานยนต์ คาดสรุปภายในเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์บริหารทรัพย์และยกระดับกองทุนวายุภักษ์ 1
  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เผยปีงบ 2561 ปรับแผนต่างๆ ให้สอดคล้องแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี มีเป้าหมายนำส่งรายได้ 1.37 แสนล้านบาท และเบิกจ่ายงบลงทุนให้ขยายตัวไม่น้อยกว่า 10% โดยในปีงบ 2560 ต้องดูแลงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ 5.06 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 3.45 แสนล้านบาท ซึ่งในปีงบ 2561 รัฐบาลจะยังกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่ 95% ขณะที่ปีงบประมาณที่ผ่านมา เบิกจ่ายได้เพียง 85% ดังนั้น หากมองการขยายตัวของเม็ดเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จะพบว่า ในปีงบประมาณที่แล้ว ขยายตัวถึง 20% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10% ซึ่งมีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจปีที่แล้วขยายตัว 3.2%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TCAP (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 58.50 บาท คาดกำไร Q3/60 ที่ 1,752 ล้านบาท ดีขึ้น 5%QoQ และ 17%YoY โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิได้แรงหนุนจากสินเชื่อเช่าซื้อที่เติบโต ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจตลาดทุนช่วยหนุน ด้านคุณภาพหนี้และสำรองหนี้ยังไม่น่ากังวล สำหรับในไตรมาสหน้าอาจเห็นสินเชื่อได้แรงหนุนจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่และงาน Motor Show แต่ยังไม่เห็นปัจจัยลบที่มีนัยสำคัญ โดยราคาหุ้นที่ซื้อขายปัจจุบันยังมี Upside ที่น่าสนใจ
  • PTTGC (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ" เป้า 88 บาท ผลประกอบการ Q3/60 คาดจะฟื้นตัวเด่น QoQ ขณะที่แรงส่งเชิงบวกคาดต่อเนื่องไปใน Q4/60 นำไปสู่การปรับประมาณการปี 60-61 ขึ้น 20.5% และ 16.7%
  • LIT (ไอร่า) เป้า 15.30 บาท แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H/60 ดีกว่า 1H/60 ซึ่งมีรายได้และกำไรสุทธิ จำนวน 197 ล้านบาท และ 71 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนึ่งจากรับรู้รายได้เต็มที่การปล่อยเงินกู้ต่อเนื่องในช่วง 2 ไตรมาสแรก รวมเกือบ 800 ล้านบาท คาดกำไรปี 60 ที่ 144 ล้านบาท เติบโต 43% จากโครงการลงทุนภาครัฐกระตุ้นสินเชื่อ, การเข้มงวดสินเชื่อของธนาคารโดยเฉพาะ SME ซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมาย LIT รวมถึงการประมูล E-Bidding ช่วยให้ SME มีโอกาสได้งานมากขึ้น, การปรับ Product MIX เพิ่มสินเชื่อกลางน้ำที่ให้ Yield สูงกว่า ต้นทุนการเงิน (CoF) ปรับตัวลดลงหลังออก LIT-W1 นอกจากนี้ยังช่วยลดแรงกดดันจากดอกเบี้ยขาขึ้น
  • HMPRO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเมื่ออ่อนตัว"เป้า 13 บาท คาดกำไรสุทธิ Q3/60 +4.3% Q-Q, +24.5% Y-Y จากกำลังซื้อในกทม.และหัวเมืองใหญ่ที่ฟื้นตัว ทำให้คาด SSSG พลิกเป็นบวก 2% Y-Y จาก -4% Y-Y ในปี 60 ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายยังทำได้ดี แม้มีเปิดสาขาใหม่อีก 3 แห่ง ส่วนแนวโน้มกำไร Q4/60 จะเป็นจุดสูงสุดของปี สะท้อนกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 60-61 โต 13.3% Y-Y และ 15.2% Y-Y

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ