นายเกียรติ วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามราช (SR) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) มีมติอนุมัติการซื้อและรับโอนกิจการจากบริษัท เทคโทรนิค โฮลดิ้ง จำกัด (T-Holding) ด้วยกระบวนการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer: EBT) รวมถึงการลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการดังกล่าว มีมูลค่าตอบแทนที่ ตกลงในสัญญาโอนกิจการจำนวน 313.45 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะชำระเป็นเงินสดจำนวน 45 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 268.45 ล้านบาท จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เป็นจำนวน 76.7 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเป็นค่าตอบแทนการโอนกิจการของ T-Holding คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับร้อยละ 12.78 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 3.50 บาท เพื่อเป็นการตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมดของ T-Holding ทั้งทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดทั้งหมดจาก T-Holding ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีในอนาคต ณ วันโอนกิจการทั้งหมด รวมไปถึงหุ้นสามัญของบริษัท เทคโทรนิค จำกัด (T) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ถือหุ้นโดย T-Holding ร้อยละ 99.99 (รวมเรียกว่า"กิจการทั้งหมดของ T-Holding")
อีกทั้งผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติ เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 38.35 ล้านบาท จาก 300 ล้านบาท เป็น 338.35 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 76.7 ล้านหุ้น เพื่อเป็นค่าตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมดจาก T-Holding ขณะที่ T จะกลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัท
“ภายหลังการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดแล้ว SR ยังคงประกอบธุรกิจเดิม โดยที่ T จะกลายเป็นบริษัทย่อยของ SR และดำเนินธุรกิจออกแบบ และติดตั้ง ระบบควบคุมและวัดอัตราการไหลของของไหลในระบบท่อ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการดำเนินธุรกิจให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยจะช่วยขยายสายงานการให้บริการ และการขายผลิตภัณฑ์ (Product and Service Line Extension) ให้แก่กลุ่มบริษัท ตลอดจนการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้สามารถรับงานโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ T เติบโตแข็งแกร่ง ทำให้ในอนาคตมีศักยภาพที่จะสร้างงานและรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก"นายเกียรติ กล่าว
นายเกียรติ กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นของ T-Holding ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นของบริษัท ได้กำหนดระยะเวลาการห้ามขาย (Lock-up) เป็นเวลาทั้งหมด 5 ปี คือ ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจนถึงวันครบรอบปีที่ 2 ห้ามขายจำนวนร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท และในปีที่ 3 ถึงปีที่ 5 มีกำหนดสัญญาห้ามขายร้อยละ 75 ร้อยละ 50 และร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ตามลำดับ