เรืออากาศเอก กนก ทองเผือก รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานบริหารกฎหมาย บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า การบินไทยอยู่ระหว่างการปรับเส้นทางการบินระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมหากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ประกาศปลดธงแดงประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศออกมาในเร็ว ๆ นี้ โดยจะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทพิจารณาในวันที่ 18 ต.ค.นี้
เบื้องต้นคณะกรรมการ ,ฝ่ายบริหารและผู้อำนวยฝ่ายขายทั่วโลก ได้ร่วมระดมความคิดเห็นและหารือร่วมกันแล้ว ซึ่งจะพิจารณาเปิดจุดบินในสหรัฐทั้งจุดบินที่เคยทำการบิน และไม่เคยทำการบินมาก่อน โดยปัจจุบันสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration:FAA) ยังห้ามสายการบินของไทยทำการบินเข้าสหรัฐ ซึ่งขณะนี้การบินไทยทำการบินเข้าสหรัฐโดยใช้สายการบินพันธมิตร (Code Share) บินแทน
ขณะที่ปัจจุบันการบินไทยทำการบินทั้งสิ้น 58 จุดบินทั่วโลก และยังไม่มีเส้นทางบินไปยังแอฟริกา หลังจากก่อนหน้านี้เคยเปิดเส้นทางบินไปยังเมืองโจฮันเนสเบิร์ก แต่ก็ได้ยกเลิกเส้นทางบินดังกล่าวไปแล้ว
"บอร์ดทำ Workshop Route Network ทบทวนเส้นทางการบินทั่วโลก โดยหลักการการบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติและเป็นสายการบินพรีเมี่ยม เส้นทางการบินเราควรมีทุกทวีป"เรืออากาศเอก กนก กล่าว
เรืออากาศเอก กนก กล่าวด้วยว่า ในทางกลับกันหากไทยได้รับการปลดธงแดง ก็จะมีผลกระทบต่อการบินไทย ที่จะเปิดทางให้หลายสายการบินสามารถทำการบินในเส้นทางระหว่างประเทศมากขึ้นซึ่งก็จะเข้ามาแข่งขันกับการบินไทยมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันลูกค้าแถบยุโรปกลับมาดี อาทิ ผู้โดยสารจากเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ มีความต้องการ 200 ที่นั่ง เป็นต้น โดยผู้โดยสารยุโรปถือเป็นลูกค้าหลัก และในวันที่ 17 ต.ค.นี้ จะเริ่มทำการบินกรุงเทพ-เวียนนา ซึ่งขณะนี้มียอดจองตั๋วเกิน 80% ดังนั้น คาดว่าในไตรมาส 4/60 อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) จะมีมากกว่า 80% ซึ่งดีกว่าไตรมาส 3/60
ส่วนกรณีระบบจองตั๋วโดยสารออนไลน์ของบริษัทที่เกิดขัดข้องเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ทางการบินไทยอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะสรุปผลวันที่ 9 ต.ค.นี้ โดยเบื้องต้นระบบเกิดข้อผิดพลาด ดังนั้น ทางการบินไทยจะรับผิดชอบแก่ลูกค้าที่ออกตั๋วโดยสารในวันดังกล่าว ส่วนลูกค้าที่จองแต่ยังไม่ออกตั๋ว บริษัทจะไม่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ระบบจองตั๋วออนไลน์กลับมาทำงานเป็นปกติแล้ว
เรืออากาศเอก กนก กล่าวว่า ในวันที่ 9 ต.ค.นี้ ฝ่ายบริหาร และผู้บริหารที่เป็นกรรมการ บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) จะหารือเรื่องการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ NOK และกลยุทธ์การจัดตั้งไทยกรุ๊ป เพื่อบริหารจัดการสายการบินที่อยู่ในกลุ่มเพื่อให้การทำงานสอดประสานซึ่งกันและกัน รองรับการแข่งขันที่สูง หลังจากนั้นจะนำเสนอคณะกรรมการอนุมัติในวันที่ 18 ต.ค.นี้
สำหรับความคืบหน้าการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) นั้น ขณะนี้มีผู้สมัคร 5 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติโดยยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้สมัครได้