โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) หลังมองกำไรในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเติบโตมาก จากการให้บริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Network) จากลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่เป็นบิ๊กเนม รวมถึงทยอยรับรู้รายได้งานติดตั้งโครงข่ายตามปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ และล่าสุดได้รับงานติดตั้งโครงการเน็ตชายขอบ มูลค่ากว่า 1.8 พันล้านบาทเข้ามาเพิ่มเติม โดยกำไรที่ขยายตัวมากช่วงครึ่งปีหลังจะช่วยผลักดันให้กำไรทั้งปี 60 ของ ITEL เติบโตได้ราว 89-96% จากปีก่อน
นอกจากนี้ ITEL ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากตามอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเฉลี่ย 20% ต่อปี ผนวกกับจะมีการประมูลงานติดตั้งโครงข่ายเข้ามาเพิ่มเติม โดยเฉพาะโครงการเน็ตชายขอบ ระยะ 2 รวมถึงการเปิดดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งใหม่ที่ถูกเลื่อนไปเป็นปีหน้านั้น ก็จะช่วยหนุนกำไรในอนาคตด้วย
ปิดพักเที่ยงหุ้น ITEL อยู่ที่ 5.55 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.89% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.21%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 7.10 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 7.20 บัวหลวง ซื้อ 7.20 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซื้อเมื่ออ่อนตัว 6.20 โนมูระ พัฒนสิน ถือ 6.30
นักวิเคราะห์บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ ITEL ในปีนี้เติบโต 96% มาที่ 132 ล้านบาท แม้ในช่วงครึ่งแรกปีนี้จะทำกำไรได้เพียง 43.25 ล้านบาทเท่านั้น โดยกำไรจะเติบโตมากในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากการให้บริการเช่าโครงข่ายแก่ลูกค้ารายใหม่ซึ่งเป็นลูกค้าบิ๊กเนม เพิ่มเติมทั้ง บมจ.เมืองไทยลิสซิ่ง (MTLS), บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD), บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS), สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น ซึ่งจะทำให้รายได้ค่าเช่าโครงการข่ายมากขึ้นตามไปด้วย
ในส่วนของการติดตั้งโครงข่ายในช่วงครึ่งแรกปีนี้ สามารถรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ไปแล้วราว 100 ล้านบาท และยังเหลืองานในมือ ส่วนติดตั้งโครงข่ายอีกกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ และจะยังรับรู้รายได้จากโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ (เน็ตชายขอบ) มูลค่า 1.87 พันล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/60 จนถึงปี 61
นอกจากนี้ ITEL ยังเจรจากับภาครัฐเพื่อขอเป็นผู้ให้บริการโครงการเน็ตชายขอบ นอกเหนือจากการติดตั้งโครงข่ายดังกล่าวด้วย ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็จะสามารถทำให้มีรายได้จากการให้บริการเข้ามาเพิ่มเติมด้วย
สำหรับงานให้บริการเช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ในปีนี้ จะสามารถรับรู้รายได้มากขึ้นหลังมีลูกค้าเข้าใช้บริการเต็ม ส่วนการเปิดดาต้าเซ็นเตอร์ แห่งที่ 2 คาดว่าอาจจะล่าช้าออกไปเป็นปีหน้า
"การใช้อินเตอร์เน็ตที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ต่อปี ถ้า ITEL ไม่ทำอะไรเลยก็ยังคงมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่ ITEL ยังมีงานติดตั้งโครงข่ายเข้ามาเพิ่ม และยังมีโอกาสประมูลงานใหม่ ๆ เพิ่มเติม ซึ่งในระยะเวลาอันใกล้ก็จะมีโครงการเน็ตชายขอบระยะที่ 2 ที่จะเปิดในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า"นักวิเคราะห์ กล่าว
นักวิเคราะห์ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากโครงการเน็ตชายขอบระยะที่ 2 ที่ ITEL จะเข้าประมูลเองแล้ว ITEL ยังมีโอกาสสำหรับงานโครงการเน็ตประชารัฐที่เคยได้รับงานต่อจากกลุ่ม บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น (TRUE) ในโครงการเฟสแรก รวมถึงโอกาสการร่วมกับพันธมิตรลงทุนโครงข่ายใยแก้วนำแสงในประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของ ITEL นอกเหนือจากงานที่มีอยู่ในมือที่จะผลักดันให้ ITEL มีกำไรเติบโตช่วง 3 ปี (ปี 60-62) เฉลี่ยปีละ 58%
ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่ากำไรของ ITEL ในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะเติบโต 168.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 95% จากครึ่งปีแรก ขณะที่ในส่วนของรายได้จะเติบโตจากการให้บริการโครงข่าย ขยายตัวตามจำนวนวงจร และปริมาณการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น เช่น MTLS ที่ในช่วงครึ่งแรกปีนี้ติดตั้งวงจรไปแล้ว 570 สาขา และคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 1,700 สาขา, SAWAD เริ่มทยอยติดตั้งวงจรแล้วในไตรมาส 3/60 และคาดว่าปีนี้จะอยู่ 1,000 สาขา รวมถึงยังมีลูกค้ารายอื่น ๆ เช่น AEONTS, บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO) และกองสลากฯ เป็นต้น
ทั้งนี้ คาดว่า ITEL จะทยอยรับรู้ Backlog งานติดตั้งโครงข่ายมาส่วนหนึ่ง โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/60 มีงานในมืออยู่ที่ 160 ล้านบาท และได้ส่วนหนุนสำคัญจากงานใหม่ที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ สัญญาย่อยโครงการเน็ตประชารัฐ และโครงการเน็ตชายขอบ สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้โครงข่ายของ ITEL จะมีการใช้งานมากขึ้น แต่ก็มีต้นทุนค่าเช่าร้อยสายสูงขึ้นด้วย แต่หากเทียบกับครึ่งปีแรก คาดว่าจะปรับตัวลงจากสัดส่วนรายได้งานติดตั้งโครงข่ายที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ได้ปรับเพิ่มกำไรปี 60 มาที่ 127.6 ล้านบาท เติบโต 89.7% จากปีที่แล้ว ซึ่งได้รวมรายได้โครงการเน็ตชายขอบไว้ในประมาณการแล้ว แต่ปรับลดสมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงจากต้นทุนโครงข่ายที่สูงขึ้น
สำหรับในปี 61 คาดว่ากำไรของ ITEL จะเติบโตอีก 29.4% มาที่ 165.2 ล้านบาท ตามรายได้ที่คาดว่าจะขยายตัว 25.4% มาที่ 1.56 พันล้านบาท จากรายได้บริการโครงข่ายที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณการใช้งานของลูกค้ารายเดิมที่เพิ่มขึ้น และเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการโครงข่ายเพื่อสำรองระบบเคเบิลใต้น้ำของบริษัท คัม ปานา จำกัด รวมถึงรายได้บริการโครงข่ายแก่เน็ตชายขอบ
ด้านรายได้บริการติดตั้งโครงข่าย เพิ่มขึ้น 7% โดยคาดว่างานในมือ ณ สิ้นปี 60 จะมีมูลค่าเกิน 600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ปี 61 เกือบทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะเป็นส่วนที่เหลือของงานติดตั้งเน็ตชายขอบ และจะมีสัญญางานใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนรายได้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ คาดทรงตัวจากปีก่อน เนื่องจากศูนย์ได้ให้บริการเต็มพื้นที่ตั้งแต่ปี 60 แล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่า ITEL จะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่เล็กน้อย
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ ITEL ในไตรมาส 3/60 จะเติบโตสูงเมื่อเทียบกับงวดปีก่อน และไตรมาสก่อนจากรายได้ในธุรกิจเช่าวงจรโครงข่ายที่เติบโตสูง และจะผลักดันให้กำไรในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เติบโตได้เร็วกว่าครี่งปีแรกจากการให้บริการลูกค้าใหม่อย่างเช่น MTLS ที่เพิ่มขึ้นไตรมาสละ 400 สาขา