นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้แรงหนุนจากแรงซื้อดักผลประกอบการไตรมาส 3/60 ที่กำลังจะทยอยประกาศตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ชะลอตัวลง รวมถึงภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะกดดันให้ดัชนีมีความผันผวน ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,670-1,700 จุด
ทั้งนี้ แนะนำ หุ้นกลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ PTTGC TOP IRPC BCP ที่คาดว่ากำไรไตรมาส 3/60 มีแนวโน้มเติบโตจากค่าการกลั่นที่พุ่งขึ้นในช่วงต้นไตรมาส 3 รวมถึงกลุ่มเดินเรือ TTA PSL RCL อานิสงส์จากค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยให้ความสำคัญการประกาศแจ้งผลการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของประเทศไทยอย่างเป็นทางการขององค์กรการบินระหว่างประเทศ (ICAO) ในช่วงกลางเดือน ต.ค.ซึ่งมีทิศทางไปในเชิงบวก และจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มสายการบินและท่องเที่ยว
รวมถึงการซื้อเก็งกำไรดักผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในช่วงไตรมาส 3/60 และการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ มีความเป็นไปได้มากขึ้นหลังสหรัฐฯ ผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ค.ศ.2018 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนปัจจัยที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องยังคงมาจากความน่าจะเป็นในการปรับเพิ่มดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมระหว่าง 12-13 ธ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 87% ประกอบกับคาดถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 12 ต.ค. อาจมีการส่งสัญญาณการลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตร และ Fund Flow มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (Net Buy) ลดเหลือ 6 พันล้านบาท
นอกจากนี้ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่วันที่ 11-20 ต.ค.หุ้นกลุ่มธนาคารทยอยส่งงบการไตรมาส 3/60 คาดกลุ่มเช่าซื้อจะมีผลประกอบการดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนธนาคารขนาดใหญ่มีปัจจัยกดดันจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในวันที่ 12 ต.ค.กำหนดประชุม รมว.คลังกลุ่ม G20 คาดว่าจะมีการหารือกันเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และ ECB เริ่มปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ และกลางเดือนต.ค. คาดการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะหารือเรื่องการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) เสรีอีกครั้ง
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า จุดสนใจหลักเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสงครามยังคงอยู่ที่คาบสมุทรเกาหลี แต่การโต้วิวาทะไปมาระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือนั้น ยังไม่เห็นความคืบหน้าว่าจะเกิดการใช้กำลังทหารเข้าปะทะ ทำให้ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นส่งผลบวกต่อสินทรัพย์ปลอดภัยเพียงระยะสั้นเท่านั้น โดยนักลงทุนในสหรัฐฯกำลังเฝ้าติดตามผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับพอร์ตสินทรัพย์และค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้น ทิศทางค่าเงินสกุลหลักอาจลดความผันผวนลงชั่วคราว ทำให้เงินบาทมีแนวโน้มจะแกว่งแคบลงด้วย
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยจึงมีมุมมองต่อราคาทองคำโลกในช่วงนี้ว่า ยากที่จะกลับไปยืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ ได้ โดยในระยะสั้นนี้ ราคามีแนวโน้มจะสวิงในช่วงจำกัดระหว่างกรอบรับหลักที่ 1,240-1,260 ดอลลาร์ กับแนวต้านจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ จึงแนะนำให้เน้น trading ในกรอบดังกล่าว หรือ ดัก short เพื่อเล่นในทิศทางขาลง โดยมี stop loss เมื่อยืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์