นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กล่าวว่า ปตท.สผ.มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุในปี 65-66 ทั้งบงกชและเอราวัณ โดยหลังจากที่กลุ่มเชลล์ยกเลิกการขายหุ้นราว 22.22% ในแหล่งบงกชให้กับกลุ่ม Kuwait Foreign Petroleum Exploration Company (KUFPEC) นั้น ก็ทำให้ ปตท.สผ.จะหารือกับกลุ่มเชลล์ถึงโอกาสความร่วมมือในการเข้าประมูลแหล่งบงกชต่อไป หรือ อาจรับซื้อหุ้นแหล่งบงกชต่อจากกลุ่มเชลล์ หากกลุ่มเชลล์ยังต้องการที่จะขายหุ้นดังกล่าว
ปัจจุบัน แหล่งบงกช มีปตท.สผ. ถือสัดส่วน 44.445% และบริษัท Total ถือสัดส่วน 33.333% ขณะที่กลุ่มเชลล์ ถือสัดส่วน 22.222% โดยมี ปตท.สผ.เป็นผู้ดำเนินการ
"ตอนนี้เราอยากจะคุยกับเชลล์ว่าจะมีเจตนารมย์อย่างไร ยังคงที่จะพิจารณาการขายหรือไม่ ถ้าเขาจะขายเราก็พร้อมจะพิจารณา...เราเตรียมความพร้อมสำหรับทั้งสองแหล่ง"นายสมพร กล่าว
นายสมพร กล่าวอีกว่า สำหรับการประมูลในแหล่งเอราวัณที่กลุ่มเชฟรอนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นผู้ดำเนินการนั้น ทางปตท.สผ.ก็อยู่ระหว่างการเจรจาถึงโอกาสในการประมูลร่วมกัน บนเงื่อนไขเดิมที่ ปตท.สผ.ต้องการจะถือสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ถืออยู่ราว 5% ซึ่งหากรับเงื่อนไขร่วมกันได้ก็จะประมูลร่วมกัน แต่หากตกลงกันไม่ได้ ปตท.สผ.ก็พร้อมจะเข้าประมูลเอง
ส่วนการที่กลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) ลงนามในบันทึกความเข้าใจด้วยความร่วมมือด้านพลังงานและการพัฒนาธุรกิจ กับ บริษัท แก๊สพรอมเน็ฟ พีเจเอสซี (Gazpromneft PJSC) ของรัสเซียนั้น เป็นการหาความร่วมมือทั้งในส่วนของธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น และขั้นปลาย ซึ่งเป็นเพียงการแสดงเจตนารมย์ของความร่วมมือกัน โดยยังไม่มีโครงการลงทุนชัดเจน
ด้านนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ PTT กล่าวว่า การที่กลุ่มเชลล์ ยังคงถือหุ้นในแหล่งบงกชอยู่นั้นนับเป็นเรื่องที่ดี ซึ่ง ปตท.สผ.กำลังพิจารณาเรื่องการประมูลแหล่งปิโตรเลียมที่จะหมดอายุสัมปทาน