CLSA มอง SET ปี 61 มีลุ้นแตะ 2,000 จุดขานรับการลงทุนใน EEC-ศก.ไทยดีขึ้นต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 11, 2017 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 61 ยังมีทิศทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีนี้ โดยมีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปแตะระดับ 2,000 จุด ทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลจากที่เคยทำสถิติสูงสุดในอดีตไว้ที่ราว 1,789 จุด หลังได้รับปัจจัยหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่เชื่อว่าในปีหน้าการลงทุนจากภาครัฐจะมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าปีนี้ โดยเฉพาะการเริ่มลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเป็นโครงการที่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนไทยและต่างชาติได้อย่างดี

ทั้งนี้ การลงทุนในพื้นที่ EEC ถือเป็นปัจจัยที่มีผลต่อภาพรวมของประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นการลงทุนขนาดใหญ่และยกระดับประเทศไทยให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขันเพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามา ช่วยเสริมศักยภาพของการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศไทยให้ก้าวหน้าขึ้น

อีกทั้งแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางการเติบโตขึ้นจากปีนี้ จากการส่งออกที่ดีขึ้นตามทิศทางของการค้าและเศรษฐกิจโลกที่จะเห็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศหลัก เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น เป็นต้น ขณะที่การบริโภคในประเทศเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับการที่ภาครัฐได้พยายามออกนโยบายที่เสริมศักยภาพของประเทศไทยในระยะยาว ได้แก่ การปฏิรูประบบราชการ การลงทุนด้านการศึกษา และการพัฒนาวิชาชีพและแรงงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีกว่านโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เช่น มาตรการช็อปช่วยชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเน้นมาก

"ปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งในปี 61 ผมมองว่าไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา เพราะจากที่ผมคุยกับนักลงทุนต่างชาติ เขาก็ไม่ได้มองว่าปัจจัยการเลือกตั้งเป็นปัจจัยที่หนนดัชนี SET แต่ปัจจัยที่ผลักดันดัชนี SET ให้เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นความมั่นใจในการลงทุนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนใน EEC การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ แต่ระหว่างทางอาจจะเกิดความตะกุกตะกักเกิดขึ้น เพราะมีบางปัจจัยที่กดดัน เช่น การบริโภคในประเทศที่ยังไม่ได้ดีขึ้นอย่างเต็มที่ แต่เป็นลักษณะของการค่อย ๆ ดีขึ้น การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เป็นต้น"นายปริญญ์ กล่าว

นายปริญญ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในปี 61 จะเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ดัชนีบวกติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็นปีที่ต่างชาติซื้อสุทธิ (Net Buy) โดยมองว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทุนขนาดใหญ่จากต่างชาติเข้ามาช่วยผลักดันดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นอีก 20% หรือมาแตะระดับ 2,000 จุด ในปีหน้า

ด้านคำแนะนำในการลงทุนมองว่าในระยะสั้นหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมียังมีความน่าสนใจลงทุน เพราะราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับที่ดี และส่วนต่างผลิตภัณฑ์ (สเปรด) มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น จากการที่อุปสงค์และอุปทานเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุล ส่วนในระยะยาวมองว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มที่ดีจากผลการดำเนินงานที่จะเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนใน EEC ที่จะเห็นการซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น และการขยายตัวของแหล่งชุมชนจะมีการกระจายตัวมากขึ้นตามการขยายความเจริญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ