(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ หลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยเฟดมีโทนไปในทางผ่อนปรนมากขึ้น-ราคาน้ำมันยังขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 12, 2017 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศยังดีอยู่ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกัน ภายหลังจากที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในครั้งก่อน มีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนธันวาคมอยู่ แต่จะเห็นได้ว่าโทนไปในทางผ่อนปรนมากขึ้น เนื่องจากยังมีความกังวลเงินเฟ้อที่ยังต่ำอยู่ ทำให้เช้านี้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง และราคาน้ำมันก็ยังปรับตัวขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ปัจจัยในประเทศที่จะต้องติดตามเป็นเรื่องการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3/60 ซึ่งก็เริ่มที่กลุ่มแบงก์ โดยทาง TISCO ประกาศออกมาแล้วเมื่อวานนี้ ส่วนนอกประเทศวันนี้ให้ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ และให้ติดตามวาทะของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะให้ความเห็นนโยบายเศรษฐกิจการเงิน รวมถึงการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ให้ติดตามการส่งสัญญาณเรื่องอัตราดอกเบี้ย

พร้อมให้แนรับ 1,710-1,705 จุด ส่วนแนวต้าน 1,720-1,725 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ต.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,872.89 จุด เพิ่มขึ้น 42.21 จุด (+0.18%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,603.55 จุด เพิ่มขึ้น 16.30 จุด (+0.25%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,555.24 จุด เพิ่มขึ้น 4.60 จุด (+0.18%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 76.91 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.75 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 41.48 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 27.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.54 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.62 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.11 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 8.62 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ต.ค.60) 1,714.14 จุด เพิ่มขึ้น 7.19 จุด (+0.42%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,613.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ต.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ต.ค.60) ปิดที่ระดับ 51.30 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ต.ค.60) ที่ 7.33 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.15 แข็งค่าจากดอลล์อ่อนหลังรายงานประชุมเฟดห่วงตัวเลขเงินเฟ้อต่ำ
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับขึ้นคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอาเซียน 5 ประเทศ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม เป็น 5.2% ในปี 2560 ในรายงานเดือน ต.ค. จากคาดการณ์เดิม 5% เมื่อเดือน เม.ย.
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในเดือน ก.ย. 2560 พบว่าครัวเรือนมีความกังวลต่อการครองชีพทั้งในปัจจุบันและในอนาคตมากขึ้น สะท้อนจากดัชนี ภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) และดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน อีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงมา อยู่ที่ระดับ 45.5 และ 45.3 ตามลำดับ (จากเดิมที่ระดับ 45.7 และระดับ 46.2 ในเดือน ส.ค.)
  • นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เผยหากประเทศไทยมีการประกาศวันเลือกตั้งในเดือน มิ.ย. 2561 และให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน พ.ย. 2561 ตามที่ประกาศเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมโฆษณาอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคมีเงินที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น และเมื่อขายสินค้าได้ผู้ประกอบการก็จะมีเงินนำมาใช้จ่ายซื้อสื่อโฆษณา
  • รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ระบุว่า การแก้ปัญหาการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึงต้องผสมผสานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค มาตรการที่ตรงจุดและการปฏิรูปเชิงโครงสร้างควบคู่กันไป ซึ่งการประชุม กนง.เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2560 มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% เนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจนมากขึ้น อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นช้ากว่าที่ประเมินไว้ รวมทั้งนโยบายการเงินไม่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน แต่อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอาจกระตุ้นให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และกระทบกำลังซื้อของผู้สูงอายุที่พึ่งพาเงินออมและรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ROBINS (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 77 บาท SSSG เดือน ก.ย.มีแนวโน้มแข็งแกร่ง +4% y-y เป็นบวกครั้งแรกตั้งแต่ 4Q59 จากรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น และฤดู clearance sale จบลง คาดการณ์กำไร 2H60F จะขยายตัว +15% ขณะที่คาดการณ์กำไรเติบโตเฉลี่ย 17% ต่อปีช่วง 2561-2562 มอง PE61 23.5x "ไม่แพง"
  • BEM (ทรีนีตี้) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 8 บาท คาดรายได้รวมใน 3Q60 จะอยู่ที่ 3,873 ล้านบาท (+5%QoQ,+13%YoY) และจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 807 ล้านบาท (+8%QoQ, Flat YoY) โดยเติบโตขึ้นจากทั้งธุรกิจทางด่วนและธุรกิจรถไฟฟ้า นอกจกานี้ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยบนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินคาดว่าจะยืนเหนือระดับ 3 แสนเที่ยว/วันได้ในปี 61 และจะเติบโตเป็นราว 5 แสนเที่ยว/วัน ในช่วงปี 62-63 พร้อมลุ้นการเจรจาเพื่อต่ออายุสัมปทานการบริหารจัดการทางด่วนคืบหน้า โดย upside จากการต่ออายุสัมปทานยังไม่รวมอยู่ในประมาณการ
  • PTTGC (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 105 บาท คาดผลการดำเนินงาน 3Q/60 จะฟื้นตัวโดดเด่น ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลัก ทั้งจากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นโดดเด่นและกำไรจากสต็อกน้ำมัน ในขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์จะฟื้นตัวขึ้น จากการใช้อัตรากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ธุรกิจ ปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์คาดทรงตัว จากส่วนต่างที่ลดลง แต่มีการใช้กำลังผลิตสูงขึ้น พร้อมคาดผลการดำเนินงานในปี 61 จะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และได้รับประโยชน์จากการเข้าซื้อกิจการปิโตรเคมีที่เป็นเดิมของ PTT
  • TISCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อลงทุน"เป้า 89 บาท กำไร 3Q60 เป็นไปตามคาดที่ 1.57 พันลบ. +4.4% Q-Q, +25.8% Y-Y โดยมีรายได้ค่าธรรมเนียมและ Spread ที่ดีกว่าคาด แม้ว่าเราเห็นสินเชื่อหดตัวลง 0.5% Q-Q แต่เป็นการลดลงจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งชะลอตัวตามยอดขายรถยนต์ในประเทศ แต่สินเชื่อประเภทอื่นทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคยังเติบโตได้ดี ขณะที่คุณภาพหนี้แข็งแรงมาก NPL Ratio เหลือเพียง 2.34% และ Coverage ratio แข็งแกร่งสุดในกลุ่มธนาคารที่ 186% แนวโน้มกำไร 4Q60 คาดว่าจะทรงตัว Q-Q แม้จะรับรู้รายได้ต่างๆจาก SCBT แต่จะมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการโอนพอร์ตสินเชื่อ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ