นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up เนื่องจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้า และมีการเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ด้วย ซึ่งฝ่ายวิจัยก็คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/60 จะเติบโตเมื่อเทียบกับรายไตรมาส และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมไปถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวแข็งแกร่ง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก แต่ขณะนี้ก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ทำให้ตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.1-0.2%
อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ยังต้องติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในหลายสาขาที่จะออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และให้ติดตามวุฒิสภาของสหรัฐฯจะพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ ปี 2561 ซึ่งการพิจารณาตรงนี้เป็นก้าวสำคัญให้กับแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการพิจารณาในระยะถัดไป เนื่องจากมีความผูกพันกับงบประมาณด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,720-1,722 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730-1,735 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ต.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,956.96 จุด เพิ่มขึ้น 85.24 จุด(+0.37%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,624.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.20 จุด (+0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,557.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด (+0.18%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 96.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.24 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 84.38 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 16.14 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.91 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.54 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.93 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 37.00 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ต.ค.60) 1,726.67 จุด เพิ่มขึ้น 14.19 จุด (+0.83%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,243.21 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ต.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ต.ค.60) ปิดที่ระดับ 51.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ต.ค.60) ที่ 7.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.06 แข็งค่าเล็กน้อยจากดอลล์อ่อน คาดกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 33.05-33.20
- "บิ๊กตู่"เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์น้ำ แผนงานรับมือน้ำ และการเยียวยาผู้ประสบภัย ด้านกรมชลประทานเตือน 17-19 ต.ค.นี้ กทม.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนภาคใต้ให้ระวังช่วง 18 ต.ค. ด้าน ปภ. เผยเกิดอุทกภัยแล้ว 10 จังหวัด ประชาชนรับผลกระทบกว่า 1.4 แสนคน กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ พายุ "ขนุน" อ่อนกำลังลงแล้ว
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้เชื่อว่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียง 4% ซึ่งหลายหน่วยงานได้ทยอยปรับขึ้นต่อเนื่อง บางแห่งให้เศรษฐกิจขยายตัวถึง 3.8% ในส่วนของกระทรวงการคลังจะมีการปรับประมาณการใหม่ในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.6%
- สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตร ประจำเดือน ก.ย.ว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรลดลง 6.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่ปรับ ลดลงได้แก่ สุกร ไข่ไก่ และกุ้งขาว เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากไม่สอดคล้องกับความต้องการ ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีรายได้ของเกษตรกร เดือน ก.ย. 2560 เพิ่มขึ้นเพียง 0.48% โดยคาดการณ์เดือน ต.ค. ดัชนีรายได้เกษตรกรจะลดลงเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่เดือน พ.ย.คาดว่าอยู่ในระดับทรงตัว
- ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน ต.ค.ที่มองไป 3 เดือน ข้างหน้าอยู่ที่ 162.63 จุด ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงอย่างมากหรือเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ทำดัชนีนี้ขึ้นมาเดือน ม.ค. 2558 เพิ่มขึ้นถึง 31.02% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่อยู่ระดับ 124.13 จุด ร้อนแรงปกติ
- คมนาคมเผยสร้างสายสีเขียวส่วนต่อขยายสมุทรปราการ-บางปู และคูคต-ลำลูกกาสะดุด หลังผลหารือภาระหนี้และค่าก่อสร้างสายสีเขียวยังไร้ข้อสรุป สั่ง กทม.เร่งจัดทำรายละเอียดเรื่องเงินก่อนหารือรอบใหม่ใน พ.ย.นี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTGC (ไอร่า) เป้า 105 บาท คาด 3Q/60 ฟื้นตัวโดดเด่น จากธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลัก โดยคาด 3Q/60 มีกำไรสุทธิ 9,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50%qoq และ 59%yoy ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจการกลั่น ตามค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น คาดค่าการกลั่นของ PTTGC ในช่วง 3Q/60 เฉลี่ยอยู่ที่ 7.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 6.1 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เมื่อ 2Q/60 โดยส่วนต่างการกลั่นของน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ PTTGC เพิ่มขึ้นถึง 22% qoq คาดอยู่ที่ 13.9 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่คาดอัตราการใช้กำลังผลิตใกล้เคียงกับ 2Q/60 อยู่ที่ 103% และคาดมีผลกำไรจากสต็อกน้ำมันประมาณ 1,400 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3Q/60 ประมาณ 7.5 USD/bbl มาอยู่ที่เฉลี่ย 53.9 USD/bbl รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมีในสายโอเลฟินส์ฟื้นตัว พร้อมคาดในปี 61 ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการเข้าซื้อกิจการปิโตรเคมีที่เดิมเป็นของ PTT คาดรับรู้กำไร ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี และคาดกำลังการผลิต เพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินงานของโรงงาน mLLDPE กำลังการผลิต 434,000 ตันต่อปี
- IRPC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 7.40 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q60 ที่ 3.4 พันล้านบาท +174% Q-Q, +158% Y-Y จากการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น margin ทั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมีขยายตัวรวมถึงกำไรจากสต๊อกน้ำมัน หากเป็นไปตามคาดกำไร 9M60 จะคิดเป็น 77% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 9.0 พันล้านบาท ยังเลือก IRPC เป็น top pick เพราะการเติบโตในปีหน้าไม่ต้องพึ่งพา margin ของอุตสาหกรรม และเป็นปีที่รับรู้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่มีการหยุดซ่อม
- AMATA (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 26.4 บาท ประเมินยอดขายที่ดินพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในปีก่อน และเข้าสู่ขาขึ้นในปี 2560-62 ตามการฟื้นตัวของ FDI และรวมทั้งความคืบหน้าของโครงการ EEC
- SCC (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อลงทุน"เป้า 600 บาท คาดกำไร 3Q60 จะทรงตัว 13,400 ล้านบาท (+1%QoQ, -5%YoY) โดยกำไรหลักยังมาจากธุรกิจปิโตรเคมีสัดส่วน 81% ส่วนธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และกระดาษ คาดกำไรจะยังอยู่ในระดับต่ำ SCC ได้แจ้งตลาดขายหุ้นใน Tien Phong Plastic แล้ว มีกำไรหลังภาษี 963 ล้านบาท คิดเป็น 1.75% ของประมาณการกำไรปีนี้ โดยยังคงประมาณการ ประเด็นที่ SCC มีกระแสเงินสดในรูป EBITDA สูง 8-9 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าลงทุนต่อปีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เน้นเป็นผู้นำของอาเซียน อนาคตสัดส่วนยอดขายและสินทรัพย์ในอาเซียนจะเพิ่มเป็น 40-50% จาก 24% ในปัจจุบัน คาดจ่ายเงินปันผลปีละประมาณ 19 บาท