นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จักดาร สมาคมตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนของปีนี้ที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 60) มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund Flow) เป็นการไหลเข้าสุทธิ 2.14 แสนล้านบาท ซึ่งกว่า 85% เป็นการเข้าซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว คิดเป็นมูลค่า 1.82 แสนล้านบาท และไหลเข้าซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น มูลค่า 3.15 หมื่นล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/60 ต่างชาติมีมูลค่าการลงทุนสะสมสุทธิในตราสารหนี้ไทยทั้งสิ้น 8.14 แสนล้านบาท หรือเท่ากับ 7.1% ของมูลค่ารวมตลาดตราสารหนี้ไทย
โดยภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย 9 เดือน ยังคงเติบโตได้โดยมีมูลค่าคงค้างรวม 11.37 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.1% จากสิ้นปี 59 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 11.02 ล้านล้านบาท
ส่วนมูลค่าการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 5.97 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนของปี 59 ซึ่งมีจำนวนผู้ออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวรวม 173 บริษัท โดยมีบริษัทที่ออกออกตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มขึ้นอีก 14 บริษัทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่ได้ออกออกตราสารหนี้เอกชนระยะยาวสูงสุดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา คือ กลุ่มพัมนาอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ภาพรวมมูลค่าการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้นมีการเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนของปี 59 แต่หากไม่รวมกลุ่มสถาบันการเงิน (Bank & Finance sector) และการกู้ยืมภายในกลุ่มธุรกิจ มูลค่าการออกตราสารหนี้ระยะสั้นในช่วง 9 เดือนของปีนี้ ถือว่าลดลง 11% โดยเป็นการลดลงของการออกตราสารหนี้ในกลุ่มอันดับเครดิตต่ำกว่า BBB+ ส่วนกลุ่มอันดับเครดิต A+ ขึ้นไป กลับมีการออกเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มธุรกรกิจที่ออกตราสารหนี้ระยะสั้นมากที่สุดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา คือ กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่มียอดการออกลดลง 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับการเคลื่อนไหวของพันธบัตรรัฐบาลในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีทิศทางการปรับลดลงทุกรุ่นอายุนับตั้งแต่ปลายปี 59 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทุกรุ่นอายุปรับตัวลดลงเฉลี่ย 0.16-0.5% โดยทิศทางของพันธบัตรรัฐบาลในช่วงที่เหลือของปีนี้มองว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นจะยังคงทรงตัวตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่ยังคาดว่าจะคงอยู่ที่ 1.5% จนถึงปลายปีนี้ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับสู่เป้าหมาย
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอายุ 10 ปี ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปัจจุบันจนกว่านโยบายการลดขนาดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะส่งผลอย่างชัดเจน