หุ้น KTC ราคาขยับขึ้น 1.14% มาอยู่ที่ 133 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 112.65 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.05 น. โดยเปิดตลาดที่ 133.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 135 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 132.50 บาท
ขณะที่ดัชนี SET อยู่ที่ 1,719.27 จุด ลดลง 5.20 จุด (-0.30%)
บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) รายงานกำไรสุทธิ Q3/60 ที่ 846 ลบ. (+8%QoQ, +32%YoY) ดีกว่าตลาดคาดมาก จากความสามารถในการสร้างรายได้คือ 1) NII เติบโตดีถึง +4%QoQ, +12%YoY จากพอร์ตสินเชื่อ +10%YoY แม้เผชิญเกณฑ์ใหม่ที่เริ่มมีผลกระทบไป 1 เดือน ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตลดลงจากเดิม 20% เป็น 18%; 2) ค่าธรรมเนียม +9%YoY จากรายได้ส่วนลดร้านค้า ค่าธรรมเนียม Interchange และค่าธรรมเนียมเบิกเงินสดล่วงหน้า (ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเกณฑ์ใหม่); และที่สำคัญคือ 3) รายได้หนี้สูญรับคืนเติบโตดีถึง +28%YoY โดยกำไร 9 เดือนแรกปี 60 ทำได้ 2.4 พันลบ. (+28%YoY) และคิดเป็น 87% ของประมาณการเดิม
ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตดี ข้อมูลที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมบัตรเครดิตคือ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในเดือน ก.ค. และ ส.ค. เติบโตเร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจนเป็น +6.4% / +6.8%YoY จาก 6 เดือนแรกปี 60 ที่เติบโตเพียง +2.7%YoY แม้ยังไม่ใช่ฤดูกาลใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งอาจสะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น KTC ยังแสดงถึงศักยภาพที่ดีกว่าอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องด้วยการเติบโต +7.6%YoY ใน 3Q60 ทำให้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องเติบโตดีตาม
พร้อมปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น เพื่อสะท้อนประเด็นบวกจากกำไรที่ดีกว่าคาด จึงปรับประมาณการกำไรปี 60-61 เพิ่มขึ้น +8% / +12% เป็น 2.92 พันลบ. (+17%YoY) และ 2.81 พันลบ. (-4%YoY) โดยคาดว่ากำไร Q4/60 น่าจะลดลงทั้ง QoQ, YoY จากค่าใช้จ่ายการตลาดที่สูงตามฤดูกาลและผลกระทบเต็มไตรมาสของเกณฑ์ใหม่
อย่างไรก็ตาม ก็มองว่ากำไรทั้งปีจะเติบโตดีกว่าเป้าหมายของ KTC ที่ +10%YoY สำหรับทิศทางปีหน้า โดยคาดว่าผลกระทบต่อกำไรอาจไม่รุนแรง แม้เผชิญผลกระทบของเกณฑ์ใหม่เต็มปี โดยเป็นผลจาก Credit cost ที่ลดลง และสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตดี ทั้งนี้ กำไรของ KTC น่าจะกลับมาโตเด่นอีกครั้งในปี 62 เพราะคาดพอร์ตสินเชื่อเติบโตและ Credit cost ลดลงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม จากการที่ราคาหุ้น KTC ปรับขึ้นดีราว +30% ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากความชัดเจนเรื่องเกณฑ์ใหม่ น่าจะสะท้อนผลงานที่ดีนี้ไปมากแล้ว ทำให้ Upside เหลือไม่มาก