PLE บวก 4.17% หลังผู้บริหารเผยพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติเดินหน้าธุรกิจรับเหมาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 31, 2017 10:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น PLE ราคาวิ่งขึ้น 4.17% มาอยู่ที่ 1.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 51.50 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.45 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.51 บาท และราคาทำระดับต่ำสุดที่ 1.45 บาท

นายเสวก ศรีสุชาต ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์" โดยคาดว่า กำไรสุทธิปี 60 จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 191.12 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะตั้งสำรองหนี้อีกประมาณ 160 ล้านบาทในไตรมาส 3/60 จากคำพิพาษาของศาลปกครองกลาง ให้ PLE ต้องชำระหนี้ธนาคารแทนบริษัท เทคเนอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 50% และในฐานะผู้ค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 522 ล้านบาท

โดยบริษัทได้ตั้งสำรองแล้วบางส่วนตั้งแต่ ธ.ค.51-มิ.ย.60 ไว้จำนวน 351 ล้านบาท แต่ยังไม่ครอบคลุมความเสียหายจึงต้องตั้งสำรองเพิ่ม และหลังจากนี้ บริษัท เทคเนอร์ จำกัด จะไม่เป็นบริษัทย่อยของบริษัทแล้ว ตามคำสั่งศาล และ PLE จะไม่มีภาระผูกพันกับเทคเนอร์อีกแล้ว ถือว่าเป็นผลดีกับ PLE

นายเสวก กล่าวว่า PLE อยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารทั้ง 2 แห่งเพื่อให้ธนาคารให้การสนับสนุนวงเงินกู้ระยะเวลา ผ่อนชำระ 5 ปี เพื่อชำระหนี้ดังกล่าว และทางเทคเนอร์จะดำเนินการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อขอให้ศาลพิจารณาลดหย่อนในส่วนของดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นส่วนที่ทำให้ภาระหนี้ตามคำพิพากษาเดิมลดลง

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ขายหุ้นบริษัท บำรุงเมืองพลาซ่า จำกัด(BMP) โครงการศูนย์การค้า SOHO ซึ่งบริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น BMP จำนวน 99.99% ให้กับบมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) โดยดีลนี้จะเสร็จสิ้นในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่ทาง THG จะชำระอีก 1,600 ล้านบาท หลังจากวางมัดจำแล้ว 500 ล้านบาท รวมกรอบวงเงิน 2,100 ล้านบาท ซึ่งจะรวมทั้งชำระค่าหุ้นและการชำระหนี้ของ SOHO แทน PLE ซึ่งเป็นหนี้ธนาคารราว 400 ล้านบาท แต่ขึ้นกับ THG จะใช้แบ่งจ่ายเป็นค่าหุ้นและชำระหนี้สัดส่วนอย่างไร จึงจะคำนวณผลกำไรจากการรขายครั้งนี้ ทั้งนี้ ดีลนี้จะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดมากกว่า 1 พันล้านบาท นายเสวก กล่าวว่า หลังการแก้ปัญหาทั้งสองบริษัทเสร็จสิ้นแล้ว PLE จะไม่มีปัญหาเก่าๆ มาฉุดบริษัทอีก โดยที่ผ่านมาบริษัทต้องแบกรับภาระขาดทุน BMP ปีละ 100 ล้านบาท ทำให้มีผลขาดทุนสะสม แต่ได้แก้ไขจนหมดแล้ว จากการแปลงหนี้เป็นทุน และขายหุ้นออกไปได้ ทั้งนี้ บริษัทจะเดินหน้าธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่จากต่างชาติ เพื่อเข้าไปรับงานสาธารณูปโภคที่จะทยอยประมูลออกมาอีกในปี 61 ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ รอบ 2 , โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม

ที่ผ่านมา PLE จับมือกับบริษัทไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท โดย PLE มีสัดส่วน 51% และจีน 49% ซึ่งคาดว่าจะได้เริ่มงานในต้นปีหน้า มีระยะเวลาก่อสร้าง 22 เดือน และล่าสุดได้งานก่อสร้างสำนักงานใหญ่ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด 2.6 พันล้านบาทจากราคากลาง 2.8 พันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจะร่วมมือกับพันธมิตร บริษัทจะคัดเลือกพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญธุรกิจนั้นๆ โดยบริษัทได้กันหุ้นเพิ่มทุนกว่า 800 ล้านหุ้นให้กับพันธมิตรธุรกิจทั้ง 2 ธุรกิจ ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเจรจาทั้ง 2 ธุรกิจ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้คาดว่าปี 61 จะเป็นปีที่บริษัทเติบโต โดยคาดว่า รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะเติบโตมากกว่า 20% จากปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 7 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 5.4 พันล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ในปัจจุบัน 2.1-2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้ถึงปี 62 โดยสัดส่วนงานภาครัฐอยู่ที่ 60-70% ที่เหลือเป็นงานภาคเอกชน

นอกจากนี้ยังมีรายได้จากธุรกิจพลังงาน ซึ่งจะเข้าร่วมทุนโครงการที่มีการดำเนินการแล้วซึ่งบริษัทเจรจาเจ้าของโครงการพลังงานอยู่หลายราย โดยบริษัทจะร่วมลงทุนธุรกิจไฟฟ้าทุกประเภท อาทิ โรงไฟฟ้าขยะ โรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

เช่นเดียวกันจะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งระหว่างนี้หารือร่วมทุนเจ้าของโครงการรีสอร์ทแห่งหนึ่งซึ่งมีลูกค้าเข้ามาซื้อแล้วและเริ่มก่อสร้างแล้วคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาในปีหน้า ซึ่งธุรกิจใหม่ที่เข้ามาจะช่วยกระจายความเสี่ยงธุรกิจ โดยธุรกิจพลังงานจะช่วยสร้างรายได้ประจำ

นายเสวก กล่าวว่า กำไรสุทธิปี 61 คาดว่าจะดีกว่าปี 60 โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 61 จะดีกว่าปีนี้หรือเพิ่มเป็น 10% ขึ้นไป และจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น

ในงวด 6 เดือนแรกปี 60 PLE มีรายได้ 2.88 พันล้านบาท เติบโต 20.7%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 46.53 ล้านบาท สูงกว่าช่วง 6 เดือนปี 59 ที่มีกำไรสุทธิ 28.15 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ